
การโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อมในกระบวนการอนุญาโตตุลาการของสนธิสัญญาการลงทุน

อ้างอิงจากหลักการของข้อตกลงการลงทุนระหว่างประเทศ ผู้ลงทุนต่างรัฐอาจใช้ข้อโต้แย้งระหว่างประเทศต่อรัฐที่ให้ลงทุน ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับความท้าทายด้านการบริหารและกำกับดูแลมาตรการของรัฐ รวมไปถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย ในทางกลับกันรัฐผู้ให้ลงทุนมักจะจำกัดข้อโต้แย้งเหล่านั้นที่สามารถนำขึ้นมาโต้แย้งต่อรัฐได้ การจำกัดข้อโต้แย้งนั้นสามารถกระทำได้โดยกำหนดกรอบของกฎหมายในการโต้แย้งต่อรัฐผู้ให้ลงทุน พิจารณาถึงเขตอำนาจของรัฐ การให้ความยินยอมและอนุญาตของรัฐ และภาระผูกพันต่อเหตุของการกระทำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจอยู่ภายใต้กฎหมายภายในของรัฐและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมไปถึงผลแห่งการระทำในส่วนของความรับผิดและการเยียวยา ซึ่งสามารถพิจารณาถึงความหมายของการโต้แย้งสำหรับข้อพิพาทในด้านการลงทุนในอนาคตจะสามารถพัฒนาระบบกฎหมายสิ่งแวดล้อมทั้งภายในรัฐ และทางระหว่างประเทศ รวมถึงนโยบายต่างๆโดยเฉพาะในด้านของบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ United Nations Sustainable Development Goals: SDGs[1]
บทบาทของกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในข้อโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อม
- เพื่อจำกัดเขตอำนาจของศาลภายในรัฐ
การร้องต่อศาลภายในของรัฐหรือกลไกการระงับข้อพิพาทภายในรัฐนั้นอาจไม่สามารถทำได้หรือไม่เป็นไปตามความตกลงของคู่พิพาทเสมอไป ตัวอย่างเช่น การร้องต่อศาลภายในอาจไม่สามารถกระทำได้ในกรณีที่ข้อโต้แย้งอยู่บนพื้นฐานของวิธีการที่ถูกเลือกนั้นถูกจำกัดการพิจารณาจากศาลภายในของรัฐ กรณีคล้ายกันในข้อพิพาทของ Burlington ซึ่งคู่พิพาททำข้อตกลงแยกจากกันซึ่งข้อโต้แย้งของพลเมืองเอกวาดอร์ต้องยื่นข้อพิพาทต่อศาลภายในรัฐก่อนที่จะมีกระบวนการอนุญาโตตุลาการ นอกจากนี้การร้องต่อศาลภายในอาจไม่เป็นที่พอใจของคู่พิพาทหากรัฐผู้ให้ลงทุนประสงค์ที่จะหลีกเลี่ยงระบบศาลภายในรัฐที่มีความบกพร่องหรือเพื่อให้กระบวนการพิจารณาข้อพิพาทมีความเป็นกลางอย่างถึงที่สุด ซึ่งรัฐผู้ให้ลงทุนอาจนำข้อพิพาทขึ้นต่อกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
คำพิพากษาของศาลภายในรัฐอาจมีข้อจำกัดในการบังคับตามคำพิพากษาเมื่อเปรียบเทียบกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ คำชี้ขาดของ International Centre for Settlement of Investment Disputes (ICSID) นั้นดีรับการยอมรับโดยอัตโนมัติและเทียบเท่ากับคำพิพากษาของศาลภายในรัฐที่เป็นภาคี กรณีเช่นเดียวกันกับอนุสัญญานิวยอร์กที่มีข้อกำหนดป้องกันและควบคุมการบังคับตามคำชี้ขาด รัฐผู้ให้ลงทุนอาจเลือกการนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการมากกว่าการร้องต่อศาลภายในของรัฐเองซึ่งเหตุผลหลักมาจากการบังคับตามคำชี้ขาดของกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพมากกว่า การบังคับตามคำชี้ขาด ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอาจมีความเกี่ยวเนื่องอย่างยิ่งด้านสาธารณสุขและความยั่งยืนซึ่งกระบวนการอนุญาโตตุลาการมีความได้เปรียบในด้านนี้
- เพื่อจำกัดการบังคับตามข้อตกลงพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อม
สนธิสัญญาพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อความชัดเจนของวัตถุประสงค์ในการประกาศใช้เนื่องจากมีการตั้งเป้าประสงค์ไว้โดยละม่อมมากกว่าการกำหนดภาระผูกพันของรัฐ กลไกการบังคับตามหากมีการละเมิดต่อสนธิสัญญาเหล่านั้นกลายเป็นว่ามีแนวโน้มที่จะมีความคลุมเครือหรือขาดหายไปอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น The United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCC) ได้มีการกำหนดให้รัฐภาคีเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทโดยการเจรจาหรือวิธีการใดๆซึ่งสันติวิธี และ ข้อตกลงกรุงปารีสปี 2016 ก็ล้มเหลวในการกำหนดกลไกของการบังคับตาม ความล้มเหลวนี้ทำให้เกิดความยุ่งยากต่อการตัดสินของศาลหรือการมีคำชี้ขาดคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนของภาระผูกพันของรัฐ
ในขณะที่เอกชนมีภาระผูกพันภายใต้กฎหมายภายใน แต่ไม่มีกฎทั่วไปที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เอกชนที่เป็นภาคีรวมไปถึงผู้ลงทุนนั้นไม่ถูกพิจารณาให้มีผลผูกพันต่อกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาพหุภาคีมักจะกำหนดภาระผูกพันต่อรัฐ มีเพียงสนธิสัญญาไม่กี่ฉบับเท่านั้นที่มีการกำหนดความรับผิดของรัฐในด้านความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเฉพาะ นอกจากนี้ในกรณีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) ถูกกำหนดให้เป็นกลไกการบังคับตามของสนธิสัญญาพหุภาคี เขตอำนาจของศาลจะมีผลต่อรัฐเท่านั้น
การรับฟังข้อโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อมในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
คณะอนุญาโตตุลาการมีการพิจารณาข้อพิพาทด้านการลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะโดยส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ข้อพิพาทของ Perenco และ Burlington เป็นตัวแทนของการโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อมครั้งแรกที่รัฐผู้ให้ลงทุนนำมาโต้แย้งต่อนักลงทุนซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการอนุญาโตตุลาการการลงทุน
- มุมมองด้านกฎหมายระหว่างประเทศ
นักลงทุนต่างรัฐอาจมีภาระผูกพันด้านสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ขอบเขต และเนื้อหาของภาระผูกพันดังกล่าวแตกต่างกันไปตามสนธิสัญญา ดังนั้นการจัดหมวดหมู่ของข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมจึงไม่สามารถกระทำได้โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสามารถรวมเข้าไว้ในสนธิสัญญาในสามวิธีกว้างๆแต่ชัดเจน ประการแรกคือการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเป็นวัตถุประสงค์โดยชัดแจ้งในบทนำของสนธิสัญญา ประการที่สอง สนธิสัญญาอาจบังคับผู้ลงทุนให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมภายในประเทศ ประการที่สาม ภาระผูกพันด้านสิ่งแวดล้อมสามารถกำหนดได้โดยตรงกับผู้ลงทุนโดยอาศัยอำนาจตามสนธิสัญญา ภาระผูกพันเหล่านี้อาจเป็นไปในเชิงบวก เช่น การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือเชิงลบ เช่น การงดเว้นจากการก่อมลพิษหรือการปนเปื้อน
หลักการทั่วไปของกฎหมายระหว่างประเทศยังอาจกำหนดภาระผูกพันด้านสิ่งแวดล้อมที่บังคับใช้กับผู้ลงทุนต่างรัฐ แม้จะมีความเชื่อดั้งเดิมว่ามีเพียงรัฐเท่านั้นที่เป็นหนี้ผูกพันในกฎหมายระหว่างประเทศ แต่มีแนวคิดโต้แย้งว่านักลงทุนที่ทำงานในระดับระหว่างประเทศไม่ได้รับความคุ้มกันจากกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศอีกต่อไป หลักการและบรรทัดฐานด้านสิ่งแวดล้อมหลายประการยากต่อการอธิบายลักษณะเป็นภาระผูกพันทางกฎหมาย หลักการและบรรทัดฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้เป็นแนวทางในการอธิบายเพิ่มเติมโดยการรวมเข้ากับกฎหมายภายในรัฐ
- มุมมองด้านกฎหมายภายในของรัฐ
ภาระผูกพันด้านสิ่งแวดล้อมสามารถพบได้ในกฎหมายภายในประเทศ ข้อ 42(1) แห่งอนุสัญญา ICSID อนุญาตให้คณะอนุญาโตตุลาการสามารถอ้างอิงถึงกฎหมายเหล่านั้นได้ สัญญาการลงทุนอาจยืนยันอย่างชัดแจ้งว่านักลงทุนผูกพันตามภาระผูกพันแห่งกฎหมายภายในของรัฐโดยเฉพาะ การรับฟังข้อโต้แย้งตามภาระผูกพันประเภทนี้จะถูกพิจารณาจากความเกี่ยวข้องทางภูมิศาสตร์และเวลากับข้อเรียกร้องหลักหรือไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยตรงจากการลงทุนหรือไม่ก็ตาม ภาระผูกพันด้านสิ่งแวดล้อมนั้นอาจมีอยู่ในเครื่องมือทางกฎหมายสาธารณะ การละเมิด กฎระเบียบหรือรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการละเมิดให้การคุ้มครองที่เข้มงวดกว่าภาระผูกพันตามสัญญา รัฐผู้ให้ลงทุนมักจะเลือกที่จะอ้างข้อโต้แย้งของตนตามกฎหมายภายในของรัฐ
- มุมมองด้านนโยบายของรัฐ
อีกหนึ่งทางเลือกในการรับฟังข้อโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อมหรือการโต้แย้งในการอนุญาโตตุลาการลงทุน ศาลในประเทศอาจเหมาะสมกว่ากระบวนการอนุญาโตตุลาการในการรับฟังข้อพิพาทดังกล่าว ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมักเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของชาติต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ นอกจากนี้ ความอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเป็นแนวคิดที่กว้างใหญ่ซึ่งอาจรวมถึงการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดลงของปลา มลพิษ และการถ่ายโอนของเสียข้ามพรมแดน การกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดไปโดยเอกชนทางเศรษฐกิจ แทนที่จะเป็นรัฐผู้ให้ลงทุนเอง ผลกระทบของความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมนั้นสัมผัสได้เหนือทุกฝ่าย หมายความถึงสิทธิของบุคคล ชนชั้น และคนชาติของรัฐเจ้าภาพ การบรรเทาผลกระทบจากมลภาวะและกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมนั้นคาดหวังจากทั้งรัฐผู้ให้ลงทุนและนักลงทุนในการแสวงหาการพัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
- แนวทางของกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
แนวทางใหม่ในประเด็นเรื่องการรับฟังข้อโต้แย้งด้านสิ่งแวดล้อมจะนำเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการด้านการลงทุนเป็นเวทีที่เป็นไปได้และเหมาะสมสำหรับรัฐผู้ให้ลงทุนเพื่อดำเนินการเรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อมต่อนักลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคในการรับฟัง มีสามขั้นตอนเฉพาะที่รัฐควรพิจารณา ได้แก่
- รัฐควรแก้ไขความตกลงด้านการลงทุนระหว่างประเทศของตนเพื่อให้แน่ใจว่าการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเศรษฐกิจมีความสำคัญเท่าเทียมกัน
- ขอบเขตของการนำเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการควรกว้างพอที่จะอนุญาตให้รัฐผู้ให้ลงทุนยื่นข้อโต้แย้งได้
- รัฐผู้ให้ลงทุนควรพิจารณาการยกระดับการละเมิดกฎหมายสิ่งแวดล้อมภายในรัฐให้เป็นสถานะเช่นเดียวกับการละเมิดสนธิสัญญา
กฎหมายว่าด้วยการละเมิดในประเทศมักจะให้การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับสูงสุดของรัฐผู้ให้ลงทุนหลายรัฐ การเรียกร้องประเภทนี้ไม่ควรถูกกีดกันจากการตัดสินด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นไปตามเครื่องมือทางกฎหมายเดียวกัน แม้ว่าการอ้างสิทธิประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นข้อบังคับ เช่นเดียวกับผลที่ตามมาถึงบุคคล แต่ก็ไม่ควรเป็นเหตุผลที่จะสงวนไว้เฉพาะในเขตอำนาจศาลภายในรัฐเท่านั้น
แหล่งที่มา
THE ADMISSIBILITY OF ENVIRONMENTAL COUNTERCLAIMS IN INVESTMENT ARBITRATION, Victoria University of Wellington Legal Research Papers Student and Alumni Paper Series, MOLLY ANNING.
Environmental Counterclaims in Investment Treaty Arbitration, ICSID Review – Foreign Investment Law Journal, Volume 36, Issue 2, Spring 2021, Pages 413–440.
Should Environmental Concerns be Considered in Investment Arbitration Rulings? The American Review of International Arbitration, Columbia Law School.
Division for Sustainable Development Goals, Department of Economic and Social Affairs Sustainable Development, United Nations.
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก THAC ได้ที่ !
[1] การจัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ขององค์การสหประชาชาติในปี 2015 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อมุ่งขจัดความยากจนในทุกมิติและทุกรูปแบบ สานต่อภารกิจที่ยังไม่บรรลุผลสำเร็จภายใต้เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) และเน้นการพัฒนาที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งแนวทางการพัฒนาตามกรอบ SDGs ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนใน 3 มิติที่มีความเชื่อมโยงเกื้อหนุนและบูรณาการการพัฒนาระหว่างมิติต่างๆ