ความล้มเหลวในการระบุสถานที่นั่งพิจารณาอนุญาโตตุลาการในข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการอาจส่งผลให้ได้รับคำชี้ขาดที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้
กระบวนการอนุญาโตตุลาการคือกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกซึ่งมีความแตกต่างกับการพิจารณาคดีในศาล เนื่องจากมีความยืดหยุ่น กล่าวคือ คู่พิพาทมีอิสระที่จะกำหนดรายละเอียดต่างๆ ในการดำเนินกระบวนการได้เองไม่ว่าจะการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการที่จะนั่งพิจารณาข้อพิพาทของตนเอง รวมไปถึงการเลือกสถานที่นั่งพิจารณา และกฎหมายที่จะใช้ระงับข้อพิพาทด้วย
การเลือกที่นั่งพิจารณานั้นมีความสำคัญเนื่องจากกฎหมายของประเทศที่เป็นสถานที่นั่งพิจารณานั้นตั้งอยู่ จะเป็นกรอบในการสนับสนุนรวมไปถึงการกำกับดูแลกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เช่นเดียวกับศาลที่มีอำนาจในการแทรกแซงกระบวนการอนุญาโตตุลาการโดยการออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว หรือโดยการเพิกถอนคำชี้ขาด นอกจากนี้สถานที่นั่งพิจารณายังเป็นตัวกำหนดสัญชาติของคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการและการบังคับใช้คำชี้ขาดนั้น สถานที่นั่งพิจารณานั้นยังมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลของกระบวนอนุญาโตตุลาการอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากคู่พิพาทเลือกที่นั่งพิจารณาเป็นกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย การอนุญาโตตุลาการจะเป็นต้องไปตามกฎหมายชะรีอะฮ์ เป็นต้น หรือการที่ลอนดอนนั้นอนุญาตให้มีการยื่นคำร้องเพื่อขอเพื่อการวางประกันสำหรับค่าใช้จ่าย (security for costs) ภายใต้พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ 1996 หรือในทางกลับกัน การเลือกสถานที่นั่งพิจารณาในสหรัฐอเมริกานั้นอาจทำให้มีการแทรกแซงของศาลได้ตาม28 USC มาตรา 1782
อย่างไรก็ตาม สถานที่นั่งพิจารณานั้นจะแตกต่างจากสถานที่ทางกายภาพที่มีการพิจารณาข้อพิพาท (ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วจะอยู่ในสถานที่เดียวกันก็ตาม) ความแตกต่างระหว่างสถานที่ (place) และสถานที่จัดการพิจารณา (venue) นั้นได้รับการเน้นย้ำไว้ในข้อบังคับว่าด้วยการอนุญาโตตุลาการบางข้อ เช่น มาตรา 18 ของข้อบังคับ ICC (2021)[1] และมาตรา 16 ของ LCIA (2020)[2]
นอกเหนือไปจากนี้ การไม่มีรายละเอียดในข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในกรณีที่คู่พิพาทต้องการตกลงให้แตกต่างกับกฎหมายสารบัญญัติโดยทั่วไป กฎหมายของสถานที่นั่งพิจารณาซึ่งโดยปกติแล้วจะแตกต่างจากกฎหมายสารบัญญัติในสัญญานั้นจะมีผลบังคับใช้กับข้อบังคับอนุญาโตตุลาการด้วย สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าโดยปกติกฎหมายสารบัญญัติของสัญญาไม่ได้ขยายไปถึงข้อบังคับอนุญาโตตุลาการเนื่องจากข้อบังคับอนุญาโตตุลาการนั้นมีอยู่อย่างอิสระและแยกออกจากเงื่อนไขสัญญาอื่น ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ในฮ่องกง กฎหมายของฮ่องกงนั้น ข้อบังคับอนุญาโตตุลาการจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ภายใต้กฎหมายของประเทศจีนหากว่าไม่ได้กำหนดสถาบันอนุญาโตตุลาการหรือกำหนดข้อบังคับอนุญาโตตุลาการเอาไว้
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
คดี Taizhou Court Case
ใน Taizhou Haopu Investment Co. , Ltd. v Wicor Holding AG, Taizhou Court, PR China, Case Docket Number: [2015] Tai Zhong Shang Zhong Shen Zi เลขที่ 00004 (2 มิถุนายน 2016) ศาลประชาชนระดับกลางในไถโจวแห่งมณฑลเจียงซู ปฏิเสธการยอมรับและบังคับตามคำชี้ขาดของ ICC บนพื้นฐานของข้อยกเว้นด้านนโยบายสาธารณะ (Public Policy) ภายใต้มาตรา 7 ของข้อตกลงเกี่ยวกับการบังคับใช้ร่วมกันของคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการระหว่างแผ่นดินใหญ่และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Arrangement Concerning Mutual Enforcement of Arbitral Awards Between the Mainland and the Hong Kong SAR) ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่ศาลจีนอาศัยข้อยกเว้นด้านนโยบายสาธารณะในการปฏิเสธการบังคับและการยอมรับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศหลังจากการตัดสินของศาลประชาชนระดับกลางจี่หนานของมณฑลซานตงในปี 2008 ในคดี “Hemofarm”
ในคดีนี้ ศาลใช้กฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพิจารณาความถูกต้องของข้อบังคับอนุญาโตตุลาการเนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้ตกลงกันเกี่ยวกับกฎหมายใด ๆ ที่ควบคุมกระบวนการอนุญาโตตุลาการหรือสถานที่นั่งพิจารณาอนุญาโตตุลาการที่จะอนุญาตให้ศาลใช้กฎหมายอื่นที่มีข้อจำกัดน้อยกว่า (เช่นกฎหมายฮ่องกง )
ในเดือนธันวาคม 2012 ศาลได้มีคำตัดสินว่าข้อบังคับอนุญาโตตุลาการนั้นไม่ถูกต้องและศาลมีอำนาจในการรับฟังข้อพิพาทดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากข้อกำหนดอนุญาโตตุลาการนั้นไม่ได้กำหนดสถาบันอนุญาโตตุลาการเอาไว้ อีกทั้งศาลยังไม่สามารถกำหนดสถาบันผ่านข้อบังคับอนุญาโตตุลาการที่เกี่ยวข้องได้ตามที่กำหนดภายใต้กฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ต่อมาในขณะที่คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา คู่พิพาทได้เริ่มดำเนินการตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการของ ICC ในฮ่องกง แต่เนื่องจากคู่พิพาทฝ่ายจีนนั้นไม่ได้ใช้สิทธิในการเลือกสถานที่นั่งพิจารณา ICC จึงได้กำหนดให้ฮ่องกงเป็นสถานที่นั่งพิจารณา และ ICC ได้ออกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการสองรายการในเดือนกรกฎาคม 2014 และรายการอื่น ๆ ในเดือนพฤศจิกายน 2014 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2014 คู่พิพาทได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อบังคับตามคำชี้ขาด แต่ในวันที่ 2 มิถุนายน 2016 นั้น ศาลได้มีคำตัดสินว่าการบังคับใช้คำชี้ขาดนั้นจะเป็นการละเมิดนโยบายสาธารณะของประเทศจีนเนื่องจากคำชี้ขาดดังกล่าวนั้นมีความขัดแย้งกันกับคำตัดสินของศาลจีน
สิ่งที่คู่ความควรให้ความสำคัญ
คู่พิพาทควรกำหนดสถานที่นั่งในการพิจารณาไว้ในข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการและควรกำหนดกฎหมายที่จะใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการไว้โดยชัดแจ้ง ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนในการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมและดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการรวมไปถึงศาลที่กำกับดูแลอนุญาโตตุลาการด้วย ทั้งนี้คู่พิพาทควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่า ไม่มีข้อจำกัดใดภายใต้กฎหมายอนุญาโตตุลาการของประเทศนั้น ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
สิ่งที่สำคัญประการต่อมานั้นคือการที่คู่พิพาทจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการร่างข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับที่นั่งพิจารณาและกฎหมายที่จะใช้ในกระบวนการพิจารณา และต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจเป็นว่าข้อบังคับอนุญาโตตุลาการนั้นเป็นไปตามกฎหมายนั้น ๆ จากคดี Taizhou นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าความไม่แน่นอนที่เกิดจากความล้มเหลวในการเลือกสถานที่นั่งพิจารณานั้นอาจนำไปสู่ความไม่สอดคล้องกันของกฎหมายและท้ายที่สุดแล้วคำชี้ขาดนั้นอาจไม่สามารถบังคับใช้ได้
ที่มา: https://www.international-arbitration-attorney.com/seat-arbitration-international-commercial-arbitration/
- https://disputescentre.com.au/wpcontent/uploads/2017/06/Gonzalo_Vial_Arbitral_Seat_Article.pdf
- https://www.nortonrosefulbright.com/en-au/knowledge/publications/ee45f3c2/issues-relating-to-challenging-and-enforcing-arbitration-awards-grounds-to-refuse-enforcement
- https://www.hlarbitrationlaw.com/2016/09/one-step-forward-two-steps-back-prc-court-refuses-to-enforce-an-icc-award-on-the-ground-of-public-policy/
- https://hsfnotes.com/arbitration/2016/09/13/taizhou-intermediate-peoples-court-refuses-recognition-and-enforcement-of-icc-award-on-basis-of-public-policy/
- https://www.bakermckenzie.com/-/media/files/insight/publications/2016/08/failure-to-specify-arbitral-seat/al_china_failurespecifyarbitralseat_aug16.pdf?la=en
[1] Article 18: Place of the Arbitration
- 1)The place of the arbitration shall be fixed by the Court, unless agreed upon by the parties.
- 2)The arbitral tribunal may, after consulting the parties, conduct hearings and meetings at any location it considers appropriate, unless otherwise agreed by the parties.
- 3)The arbitral tribunal may deliberate at any location it considers appropriate.
[2] Article 16 Seat of Arbitration, Place(s) of Hearing and Applicable Law
- 16.1 The parties may agree in writing the seat (or legal place) of their arbitration at any time before the formation of the Arbitral Tribunal and, after such formation, with the prior written consent of the Arbitral Tribunal.
- 16.2 In default of any such agreement, the seat of the arbitration shall be London (England), unless and until the Arbitral Tribunal orders, in view of the circumstances and after having given the parties a reasonable opportunity to make written comments to the Arbitral Tribunal, that another arbitral seat is more appropriate. Such default seat shall not be considered as a relevant circumstance by the LCIA Court in appointing any arbitrator or Emergency Arbitrator under Articles 5, 9A, 9B, 9C and 11.
- 16.3 If any hearing is to be held in person, the Arbitral Tribunal may hold such hearing at any convenient geographical place in consultation with the parties. If the Arbitral Tribunal is to meet in person to hold its deliberations, it may do so at any geographical place of its own choice. If such place(s) should be elsewhere than the seat of the arbitration, or if any hearing or deliberation takes place otherwise than in person (in whole or in part), the arbitration shall nonetheless be treated for all purposes as an arbitration conducted at the arbitral seat and any order or award as having been made at that seat.