ครม.เจรจาคิงส์เกต พร้อมเลื่อนอนุญาโตฯไป ก.พ. 64 นายกฯยันปิดคดีแน่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันคดีจบแน่ หลังจากยืดเยื้อมานาน กับคดีเหมืองทองอัครา ครม.เจรจาคิงส์เกต ยื่นข้อเสนอทดแทน พร้อมเลื่อนอนุญาโตฯไป ก.พ. 64
ข่าว/บทความ ที่เกี่ยวข้อง
จากความขัดแย้งคดีเหมืองทองอัครา ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เกิดขึ้นหลังจากคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ระงับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560 หลังจากนั้นคิงส์เกตฯ ได้ทำหนังสือแจ้งรัฐบาล ไทยลงวันที่ 3 เม.ย. 2560 เพื่อใช้สิทธิ์หารือ (Consultation Process) ภายใต้เอฟทีเอ ไทย-ออสเตรเลีย แต่ไม่เป็นผล ทำให้วันที่ 2 พ.ย. 2560 ได้แจ้งนำเรื่องเข้าอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งนำมาสู่การไต่สวนที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 3-12 ก.พ.2563 โดยคาดว่าอนุญาโตตุลาการจะมีคำสั่ง ในต้นปี 2564 และหากการเจรจาประสบผลสำเร็จจะได้ข้อยุติคดีก่อนที่อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศจะมีคำสั่ง
ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่า “การเจรจากับบริษัทคิงส์เกตฯนั้นเป็นไปได้ด้วยดี และบริษัทคิงส์เกตฯยอมที่จะเลื่อนระยะเวลาในการพิจารณาคดีนี้ ในชั้นอนุญาโตตุลาการออกไปก่อน จากเดิมจะมีการพิจารณาในช่วงเดือน ธ.ค.- ต้นเดือน ม.ค.2564 โดยให้เลื่อนออกไปถึงช่วงเดือน ก.พ. 2564 เพื่อให้ทีมเจรจาของภาครัฐและตัวแทนของคิงส์เกตฯ ได้เจรจาเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติม” ซึ่งในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกตฯ ในคดีเหมืองทองอัครา ที่อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องให้อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศพิจารณาคดี โดยเสนอวาระนี้เป็นเรื่องเพื่อทราบและเก็บเอกสารคืนในที่ประชุม ครม.”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวใน ครม.ว่า “มีความมั่นใจว่าในเรื่องนี้สามารถที่จะหาทางออกร่วมกันได้ก่อนที่คดีจะไปสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ และคณะทำงานของรัฐก็มีการหารือร่วมกันกับเอกชนมาตลอด และเชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะท่าทีของคิงส์เกตฯ เองก็ยอมที่จะเลื่อนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการต่อไปก่อน ซึ่งมีแนวโน้ม ที่จะทำให้เรื่องนี้จบก่อนที่จะไปถึงขั้นตอน อนุญาโตตุลาการได้ จากการเจรจาหาทางออกร่วมกัน”
“ซึ่งการเจรจาดังกล่าวอยู่ระหว่างการส่งเงื่อนไขให้บริษัทคิงส์เกตพิจารณา และหารือกันเพิ่มเติม เช่น การไม่ขึ้นบัญชีดำบริษัทฯ ในการประมูลงานภาครัฐ การเปิดโอกาสให้บริษัทฯ เข้ามาประมูลงานสัมปทานในพื้นที่อื่นๆ ของรัฐในจังหวัดอื่นได้ รวมทั้งคืนสิทธิ์ให้บริษัทฯ ในการทำเหมืองทองในพื้นที่เดิม เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรและเหมืองแร่ ไปดูความเหมาะสมและความเป็นไปได้”
“ในการเจรจากับคิงส์เกตได้มี การหารือถึงทางเลือกต่างๆ เพิ่มเติมที่จะมาเจรจากับบริษัทคิงส์เกตที่ยังเป็นประเด็นเช่นคดีความต่างๆ ทั้งในเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า ที่ยังมีอยู่มาใช้ในการเจรจาต่อรองได้ด้วย” นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวใน ครม.ในขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติม ใน ครม.ว่า “เรื่องนี้ขอให้รีบดำเนินการและทำให้ดีอย่างรอบครอบด้วย เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจ้องอยู่ อาจจะถูกนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรได้”
ทั้งนี้คิงส์เกตฯยังคงแสดงจุดยืนว่าจะเจรจาหาทางออกร่วมกับรัฐบาลไทยทั้งก่อนและหลังกระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้ประเมินการเสียโอกาสทำเหมืองอัคราบริเวณรอยต่อของ จ.เพชรบูรณ์ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ซึ่งคาดว่า จะผลิตโลหะใน 8-10 ปี ข้างหน้าแบ่งเป็นโลหะทอง 8.9 แสนออนซ์ มูลค่า37,020 ล้านบาท และโลหะเงิน 8.3 ล้านออนซ์ มูลค่า 3,984 ล้านบาทรวมมูลค่า 41,004 ล้านบาทอีกด้วย