เทคโอเวอร์ไม่สำเร็จ “นิวคาสเซิล” เตรียมยื่น อนุญาโตฯ หลัง “พรีเมียร์ลีก” ปล่อยเบลอไม่อนุมัติ
สโมสรจ่อเอาเรื่อง พรีเมียร์ลีกไม่ยอมอนุมัติการเทคโอเวอร์นิวคาสเซิล ปล่อยเรื่องยืดยาวนานกว่า 17 สัปดาห์ ปมปัญหากองทุนใหญ่คือซาอุดิอาระเบีย
ข่าว/บทความ ที่เกี่ยวข้อง
เกือบได้เปลี่ยนคนคุมบังเหียน หลัง ไมค์ แอชลี่ พยายามขายสโมสรนิวคาสเซิลที่ ซื้อมา ครอบครองในราคา 134.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,376 ล้านบาท) อยู่นาน จนในที่สุดก็มีกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund) หรือ พีไอเอฟ (PIF) ภายใต้การนำของ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งราชวงศ์ชาอุดีอาระเบีย, พีซีพี แคปปิตอล พาร์ตเนอร์ส (PCP Capital Partners) ของ อแมนด้า สเตฟลี่ย์ นักธุรกิจหญิงคนดัง และรูเบน บราเธอร์ส (Reuben Brothers) เข้ามาติดต่อขอเทคโอเวอร์ “สโมสรนิวคาสเซิล” ในราคา 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,000 ล้านบาท) เหมือนโชคไม่เข้าข้าง ปรากฏว่าทางสโมสรรอการอนุมัติการเทคโอเวอร์จากพรีเมียร์ลีกยาวนานกว่า 17 สัปดาห์ แต่ไม่มีการตอบรับมาแต่อย่างใด เป็นเหตุให้กองทุนถอนตัวจากการเทคโอเวอร์
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดออกมายืนยันว่าได้ดำเนินการทางกฎหมายกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (อีพีแอล) แล้วในกรณีพิพาทเรื่องข้อเสนอขอซื้อกิจการสโมสร โดยกลุ่มที่มีกองทุนจากประเทศชาอุดิอาระเบียคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นิวคาสเซิลออกมาแถลงการณ์เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า “การที่รายละเอียดการถอนตัวเทคโอเวอร์ “หลุด” ออกมาจากฝั่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (อีพีแอล) สโมสรเข้าใจว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลอย่างใหญ่หลวงให้กับแฟนๆ ของสโมสร และด้วยเหตุนั้นจึงพิจารณาว่าสโมสรไม่มี ทางเลือกอื่นใดนอกจากตอบโต้และ ชี้แจงความคืบหน้าให้กับแฟน ๆ ของสโมสรเพื่อเป็นการตอบโต้ข่าวดังกล่าวที่สืบเนื่องมาจากข้อมูลที่ ถูกเปิดเผย (โดยพรีเมียร์ลีก)” และ “สโมสรไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของกระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่สโมสรยืนยันว่ากระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้นมีคู่กรณีเป็นพรีเมียร์ลีก “
“ที่ข้อเสนอดังกล่าวล่ม กลางคันนั้น เกิดจากกลุ่มทุนดังกล่าว ปฏิเสธข้อเสนอในการตั้ง อนุญาโตตุลาการ อิสระ และสมัครใจที่จะถอนตัวออกไปเอง”
ชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหารพรีเมียร์ลีก ได้กล่าวโต้แย้งว่า
การที่พรีเมียร์ลีก (EPL) ตัดสินใจที่ล่าช้านั้น เกิดขึ้นมาจากการตรวจสอบกองทุนดังกล่าวโดยละเอียด เพราะมีข้อครหาเกี่ยวกับผู้บริหารสโมสรนิวคาสเซิลคนต่อไป เนื่องจากกลุ่มทุนซึ่งมาจากซาอุดิอาระเบียเป็นชาติที่มี ‘ปม’ ปัญหาในหลายเรื่องกับสังคมโลก เรื่องใหญ่ที่สุดคือจดหมายเปิดผนึกของ beIN SPORTS ช่องกีฬาระดับโลกจากประเทศกาตาร์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวมีเนื้อหาคัดค้านการที่กลุ่มทุนซึ่งมาจากซาอุดิอาระเบียจะเข้ามาเทคโอเวอร์หนึ่งในสโมสรพรีเมียร์ลีก เหตุเพราะประเทศซาอุดิอาระเบียเองเป็นคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดอย่างรุนแรง ทำให้ช่อง beIN SPORTS ได้รับความเสียอย่างมากในตลอดหลายปีที่ผ่านมา
จากกรณีปัญหาระหว่าง beIN SPORTS กับ beout Q ช่องกีฬาเถื่อนที่ลักลอบนำสัญญาณการถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลกจากกาตาร์ไปฉายแบบผิดกฎหมายในประเทศ beIN SPORTS พยายามจะขอให้รัฐบาลซาอุดิอาระเบียดำเนินการกับช่องกีฬาเถื่อนที่มีต้นกำเนิดในประเทศของพวกเขาเสีย แต่ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผล และในทางตรงกันข้ามดูเหมือนรัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะส่งเสริม beout Q ด้วยซ้ำไป ซึ่งปัญหานั้นเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เลวร้ายจากความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พรีเมียร์ลีก (EPL) ลังเลและเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด จนทำให้เกิดความล่าช้า กินเวลายาวนานกว่า 17 สัปดาห์ เป็นเหตุให้กลุ่มกองทุนที่จะมาเทคโอเวอร์นิวคาสเซิลถอนตัวไป นิวคาสเซิล กล่าวหาพรีเมียร์ลีกว่า กระทำการไม่เหมาะสมในการปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์ดังกล่าว บนพื้นฐานการตรวจสอบเจ้าของและบอร์ดบริหาร และจะพิจารณาดำเนินการทุกทางเลือกที่เป็นไปได้ต่อไป