บริษัท “GASUM” ของฟินแลนด์ เตรียมยื่นคำร้องต่ออนุญาโตฯ ในข้อพิพาทของเงื่อนไขการชำระเงินกับ “GAZPROM” ของรัสเซีย
Helsinki Times สำนักข่าวชื่อดังของฟินแลนด์ เปิดเผยว่า ข้อพิพาทระหว่างฟินแลนด์ และรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับค่าชำระก๊าซธรรมชาติได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด “GASUM” ซึ่งเป็นก๊าซของรัฐบาลฟินแลนด์ เตรียมที่จะยื่นคำร้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ เพื่อระงับข้อพิพาทด้านค่าชำระเงินแก่ “Gazprom” ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในรัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเร็วๆนี้
มีรายงานว่าทาง “GASUM” ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับในข้อเสนอของ “Gazprom” ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการชำระเงินเป็นสกุลเงิน “รูเบิล” ที่เป็นสกุลเงินทางการของรัสเซีย นอกจากนี้ บริษัทยังมีข้อพิพาทที่สำคัญเกี่ยวกับการเรียกร้องประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้สัญญาด้วยเช่นกัน ตามคำแถลงการณ์ของ “GASUM” เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม ผ่านมา
อย่างไรก็ตามทาง “Gazprom” ได้ขอให้ “GASUM” ตอบสนองต่อขอเรียกร้องดังกล่าวภายในวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรายงานอีกด้วยว่าทางฝั่งรัสเซีย ได้กำหนดเส้นตาย และข้อเรียกร้องดังกล่าวแก่หุ้นส่วนรายอื่นๆ ของสหภาพยุโรปอีกด้วย
ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์การหยุดส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังฟินแลนด์ในวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม ตามรายงานของ “GASUM” หรืออาจกล่าวได้ว่า เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว รวมถึงท่อส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างฟินแลนด์ และเอสโตเนีย เชื่อว่าไม่เพียงพอที่จะชดเชยการตัดจ่ายก๊าซจากรัสเซียที่อาจเกิดขึ้นได้
“GASUM” ระบุว่าได้เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับหุ้นส่วน และหน่วยงานอื่นๆในการจัดหาทรัพยากรสำรอง ซึ่ง Mika Wilianen CEO ใหญ่ของ “GASUM” กล่าวกับสำนักข่าว Helsinki ว่าทางการฟินแลนด์สามารถใช้ช่องทางการซื้อที่หลากหลาย และสามารถกักเก็บน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของหลายฝ่าย และย้ำอีกว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องขีดความสามารถในการจัดจำหน่าย “วันอังคาร” ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลอาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูหนาว โดยจะเกี่ยวกับความสามารถในการขนส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างฟินแลนด์กับเอสโตเนีย
Mika ยังเสริมอีกด้วยว่า”GASUM” ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคำชี้ขาดในประเด็นดังกล่าวจากคณะอนุญาโตตุลาการ โดยระบุว่าทางการฟินแลนด์จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถจัดหาพลังงานที่พวกเขาต้องการให้กับคู่ค้า ซึ่งรัสเซียได้หยุดการส่งออกไฟฟ้าไปยังฟินแลนด์ พร้อมอ้างถึงความยากลำบากในการรับค่าใช้จ่ายเป็นสกุลเงินอื่นๆในตลาด โดยผู้สันทัดกรณีในประเด็นนี้วิเคราะห์ว่าการระงับการส่งออกพลังงานดังกล่าว จังไม่ส่งผลให้ค่าใช้ไฟฟ้าครัวเรือนพรุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเร็วๆนี้