
ยายวัย 72 ปี ปีนต้นมะขามประท้วงเจ้าอาวาส เครียดวัดทำพื้นที่ก่อสร้างจนบ้านเกิดรอยร้าวหลายจุด

นางประหยัด สุขสว่าง หรือยายหมู อายุ 72 ปี เครียดหนักกลัวบ้านพัง ปีนต้นมะขามประท้วง หลังเจ้าอาวาสวัดปากคลองพระอุดมให้ผู้รับเหมาเข้ามาถมดินรอบบ้านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้บ้านทั้งหลังเกิดรอยร้าว มีเสียงแตกของกำแพงบ้านเป็นระยะๆ เนื่องจากแรงอัดของดินที่อยู่รอบบ้าน ซึ่งได้แจ้งเจ้าอาวาสไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข จนทำให้ยายหมูเกิดความเครียด ไม่กล้าเข้าไปอยู่ในบ้าน เพราะกลัวว่าบ้านจะพังลงมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ยายหมูได้เปิดเผยว่า “ตอนนี้ทุกข์ใจมากไม่กล้านอนในบ้านเพราะกลัวบ้านจะพัง เมื่อวานตนหมดความอดทนจริงๆ จึงปีนขึ้นต้นมะขามเพราะอยากเรียกร้องความเป็นธรรมโดยก่อนหน้านี้ตนได้แจ้งทางเจ้าอาวาสแล้ว ว่าบ้านแตกร้าว หลังถมดินซึ่งเจ้าอาวาสก็รับปากว่าจะแก้ไขให้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไขหรือช่วยเหลืออะไรเลย ซึ่งตนแค่อยากได้รับคำยืนยันและการพูดคุยที่ชัดเจนจากเจ้าอาวาสว่าจะแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้เงียบไปแบบนี้”
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
“ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของธรณีสงฆ์ที่อยู่ในความดูแลของวัดปากคลองพระอุดม โดยมีเนื้อที่ประมาณ 5-6 ไร่ ด้านหน้าติดแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านข้างติดคลองบางภูมิ มีบ้านที่เป็นเครือญาติกัน 6 หลัง รวมบ้านยายหมู ซึ่งบ้านทุกหลังอยู่อาศัยกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่เคยมีปัญหา โดยก่อนหน้านี้ทางวัดได้จ้างทนายเพื่อให้ฟ้องไล่ที่พวกตน แต่มีการไกล่เกลี่ยกัน จนมีข้อตกลงว่าชาวบ้านจะต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท แต่ชาวบ้านขอต่อรองเหลือหลังละ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งชาวบ้านได้เริ่มจ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2563 แล้ว” น.ส.สุภาภรณ์ กลุ่นคุ้ม ลูกสะใภ้ยายหมู กล่าวเพิ่ม
นางบุปผา คุ้มฤทธิ์ น้องสาวยายหมู ระบุว่า “ที่ดินผืนนี้อยู่อาศัยกันมาเป็นร้อย ๆ ปี โดยยืนยันได้จากรูปบรรพบุรุษ ที่อยู่มาก่อนเจ้าอาวาสรูปนี้จะมาอยู่ ทุกวันนี้เงิน 100,000 บาท ที่เจ้าอาวาสให้ชาวบ้านจ่ายค่าทนายแทน หลังทำการฟ้องไล่ที่ ชาวบ้านก็ยังเป็นหนี้กันอยู่ และถ้าหากไม่อยากให้ชาวบ้านอยู่บนที่ดินผืนนี้ ก็มาคุยกันดีดี ถ้าให้ค่ารื้อถอนตนก็ยินดีที่จะออกจากพื้นที่”
ทั้งนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ยายหมูปีนต้นมะขามประท้วงขึ้น เจ้าอาวาสก็ได้ให้ผู้รับเหมา มาตักดินบริเวณบ้านที่มีปัญหาออกไปส่วนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ดินทับกำแพงบ้าน แต่ในเรื่องของรอยร้าวและความเสียหายของตัวบ้าน ก็ยังไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ เพิ่มเติม และเมื่อทีมข่าวขอเข้าไปสัมภาษณ์เจ้าอาวาสถึงข้อเท็จจริง ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยบอกเพียงว่า จะชี้แจงก็ต่อเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาร่วมรับฟังด้วยเท่านั้น นอกจากนี้ยังห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพอีกด้วย