
ศาลฎีกาของสวิสสนับสนุนคำร้องขอให้แก้ไขคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการโดยพิจารณาจากการค้นพบในภายหลังของสถานการณ์ที่มีความเป็นธรรมในการถอดถอนอนุญาโตตุลาการ

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางสวิสหรือ Swiss Federal Supreme Court (“SFSC”) ได้มีการยื่นคำร้องขอให้แก้คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการของศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาหรือ Court of Arbitration for Sport (“CAS”) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอแลนด์ เกี่ยวกับกรณีของ Sun Yang นักว่ายน้ำชาวจีนเนื่องมาจากความลำเอียงและการขาดความเป็นกลางของประธานคณะกรรมการ CAS[1]
ความเป็นมา
ในคำตัดสินเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020 นั้น CAS ได้สั่งห้าม Sun Yang ซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำชาวจีนเป็นระยะเวลาแปดปีเนื่องจากปัญหาการละเมิดกฎการใช้ยา (Doping) ต่อมา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2020 [LG1] ที่ผ่านมา Sun Yang ได้ยื่นอุทธรณ์คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการของ CAS ต่อ SFSC ทั้งนี้ Sun Yang ได้ตั้งข้อสงสัยต่อความเป็นกลางของประธาน CAS คือนาย Franco Frattini ซึ่ง Sun Yang นั้นได้ยื่นหลักฐานเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวอ้างดังกล่าว ซึ่งได้แก่การที่นาย Franco ได้ทำการเผยแพร่ความเห็นเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ในประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่เนื้อหาจาก Twitter นั้นแสดงออกถึงการต่อต้านประเทศจีนอย่างรุนแรง
ศาลฎีกาของสวิสเซอร์แลนด์ได้ขอให้แก้ไขคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหลังพ้นกำหนดระยะเวลา 30 วันหลังจากที่มีการคัดค้าน
ในขั้นตอนแรกนั้น SFSC จะต้องทำการตรวจสอบว่า เหตุแห่งความลำเอียงไม่เป็นธรรมนี้จะสามารถพิสูจน์หลังจากสิ้นสุดระยะเวลา 30 วันได้หรือไม่ โดยที่ฝ่ายคัดค้านนั้นจะต้องระบุเหตุผลในการคัดค้านทันทีเมื่อได้ทราบถึงเหตุแห่งการคัดค้านดังกล่าวนั้น กฎดังกล่าวนี้ได้ทำการบัญญัติไว้ในมาตรา R34 ของประมวลอนุญาโตตุลาการที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา (Sports-related Arbitration “CAS-Code”) โดยที่มาตราดังกล่าวนั้นมีผลบังคับใช้ในกรณีของหลักความไว้วางใจ (Due Care) ที่คู่พิพาทอาจคัดค้านได้ โดยหากคู่พิพาทล้าช่าในการคัดค้านคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนั้น โดยทั่วไปแล้วผู้คัดค้านจะหมดสิทธิ์ในการคัดค้านดังกล่าว โดยที่ผู้คัดค้านนั้นจะต้องยื่นคำคัดค้าน (inquires) ในกรณีพิพาทและต้องแสดงให้เห็นโดนชัดแจ้งว่าได้กระทำการโดยความรอบคอบและเป็นธรรม (due diligence)
ข่าว/บทความ ที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ Sun Yang ได้โต้แย้งว่า เมื่อครั้งที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการเพื่อให้แน่ใจว่านาย Franco Frattini นั้นมีความเป็นกลางในตอนที่แต่งตั้ง Franco เป็นอนุญาโตตุลาการตอนแรกนั้น Sun Yang ได้โต้แย้งว่าเขาไม่พบ Tweet ที่มีปัญหาในเวลานั้น Sun Yang จึงได้กล่าวว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยว่านาย Franco อาจแสดงความเห็นที่เป็นปัญหาใน Twitter ซึ่งในกรณีนี้ Sun Yang อาจถูกตำหนิได้ว่าไม่สามารถพบเห็น Tweet เหล่านั้นซึ่งถูกเผยแพร่ออกมาเป็นระยะเวลาเกือบ10 เดือนก่อนที่จะมีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ อย่างไรก็ดี SFSC นั้นเห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของ Sun Yang และยังได้กล่าวอีกว่า คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่จำเป็นต้องดำเนินการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตต่อไปหรือกลั่นกรองข้อความของอนุญาโตตุลาการบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ในระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยสรุปแล้ว SFSC จึงตัดสินว่าคำโต้แย้งของ Sun Yang นั้นไม่ได้ขาดความรอบคอบเป็นธรรมแต่อย่างใด
ความเชื่อมั่นของอนุญาโตตุลาการที่แสดงออกบนโซเชียลเน็ตเวิร์กอาจทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นกลางในกรณีที่รุนแรง
ขั้นตอนต่อมา SFSC นั้นจะทำการตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่ยื่นเพื่อสนับสนุนข้อโต้แย้งเน้นทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการจริงหรือไม่ โดยคำว่า “ความเป็นกลาง” นั้นมักถูกหมายความถึงการไม่มีอคติหรือความลำเอียง โดยอ้างถึง § 141 ของคำพิพากษาวันที่ 2 ตุลาคม 2018 ของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปในกรณีของ Mutu and Pechstein v. Switzerland ของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปหรือ European Court of Human Rights
ในการตรวจสอบความเป็นอิสระของอนุญาโตตุลาการรายเดียว (Sole Arbitrator) หรืออนุญาโตตุลาการในคณะอนุญาโตตุลาการนั้น คู่พิพาททั้งสองฝ่ายอาจอ้างอิงถึงแนวทาง IBA เกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ (IBA Guidelines on Conflicts of Interest in International Arbitration) เกี่ยวกับกรณีของการขัดกันทางผลประโยชน์ในการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ตามหลักการดังกล่าวนี้ อนุญาโตตุลาการต้องปฏิเสธการแต่งตั้งหรือออกจากคณะอนุญาโตตุลาการ(หากได้มีการแต่งตั้งแล้ว) หากข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้นอาจะทำให้เกิดข้อกังขาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นกลางคือความเป็นอิสระของอนุญาโตตุลาการ[2]
ในกรณีดังกล่าวนี้ SFSC ได้ทำการสรุปว่านาย Franco Faccini ได้ใช้ภาษาที่ต่อต้านที่รุนแรงมากในหลาย ๆ ครั้งแม้ว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุญาโตตุลาการแล้วก็ตาม โดยที่เขาได้ Tweet ข้อความเช่น “ไอ้พวกซาดิสม์จีนที่ฆ่าสุนัขและแมวอย่างไร้ความปราณีใน Yulin”, “มอนสเตอร์จีนหน้าเหลืองตัวนี้ยิ้มขณะทรมานสุนัขตัวเล็กสมควรได้รับความเลวร้ายที่สุดในนรก” , “พวกซาดิสม์ที่น่ากลัว คือคนจีน!”[3] ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ SFSC จึงได้ยอมรับการอุทธรณ์ด้วยเหตุผลของความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการและชะลอคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการของ CAS
การคัดค้านและการแก้ไขคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่มีในมาตรา 190 (a) PILA
ก่อนหน้านี้การแก้ไขเพียงอย่างเดียวสำหรับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่กฎหมายกล่าวถึงคือการยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของรัฐบาลกลางสวิสเพื่อให้เพิกถอน[LG2] คำชี้ขาด การแก้ไข Chapter 12 ของกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลของสวิสเซอร์แลนด์ (Swiss Private International Law Act “PILA”) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2021 ที่ผ่านมานั้นได้ทำการแก้ไขเรื่องการขอคัดค้านและการขอแก้ไขคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
CAS ของสวิสเซอร์แลนด์นั้นถูกมองว่าเป็นศาลที่ทำการตัดสินขั้นสุดท้ายของการกีฬา และเป็นเรื่องที่ยากมากที่คำชี้ขาดนั้นจะถูกคัดค้านจาก SFSC จากกรณีดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า SFSC นั้นมีความชอบธรรมที่จะปิดช่องว่างในกฎหมายเดิมที่มีอยู่และยอมรับการยื่นคำร้องเพื่อขอแก้ไขคำชี้ขาดในระยะเวลาที่เหมาะสม
ที่มา:
[1] https://www.bger.ch/ext/eurospider/live/de/php/aza/http/index.php?lang=de&type=highlight_simple_query&page=1&from_date=&to_date=&sort=relevance&insertion_date=&top_subcollection_aza=all&query_words=4A_318%2F2020&rank=1&azaclir=aza&highlight_docid=aza%3A%2F%2F22-12-2020-4A_318-2020&number_of_ranks=1
[2] section 2 (c) of the IBA Guidelines
[3] ’Those bastard sadic chinese who brutally killed dogs and cats in Yulin’, ‘This yellow face chinese monster smiling while torturing a small dog, deserves the worst of the hell’, ‘those horrible sadics are CHINESE!’