ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชี้ขาดว่า สหภาพแรงงานไม่สามารุหยุดงานประท้วงบริษัท BNSF ได้ แนะให้ร่วมกันหาทางออกผ่านกระบวนการอนุญาโตฯ แทน
NBC NEWS สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ศาลรัฐบาลกลางได้มีคำสั่งระงับการนัดหยุดงานของกลุ่มผู้ประท้วงจากสหภาพแรงงาน จาก BNSF Railway บริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาชั่วคราว จากประเด็นข้อพิพาทการประท้วงเรื่องนโยบาย และระบบการเข้าทำงานรูปแบบใหม่
มาร์ค ที. พิตต์แมน ผู้พิพากษาประจำรัฐเท็กซัส ได้มีคำตัดสินเห็นชอบให้ BNSF Railway ดำเนินการธุรกิจต่อไปได้ โดยในเอกสารระบุว่า การประท้วงนัดหยุดงานจะกีดกันการขนส่งสินค้า กระทบต่อรายได้ คุกคามความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ตลอดจนเป็นการบีบบังคับให้พนักงานคนอื่นให้ออกจากงาน และทำให้เกิดปรากฏการณ์หยุดชะงักทางอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มีรายงานว่า “BNSF” ได้ร้องให้ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ร้องขอให้ชะงักการหยุดงานประท้วงดังกล่าวจากสมาชิกสหภาพแรงงานหลายพันคนที่ช่วยขนส่งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยให้เหตุผลว่าสหภาพแรงงาน 2 แห่งที่เป็นตัวแทนของคนงาน 17,000 คน นั้นได้กระทำการฝ่าฝืนพันธกรณีเนื่องจากลักษณะของข้อพิพาทนั้น ถือว่าเป็นกรณี “เล็กน้อย” ไม่ได้ถึงขนาดที่จะแสดงให้เห็นถึงการหยุดงานประท้วง ทั้งนี้ คำสั่งห้ามชั่วคราวที่เขาได้รับจะหมดอายุในวันที่ 8 กุมภาพันธ์
คำตัดสินดังกล่าว สามารถวิเคราะห์ได้ว่า บริษัท และสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพแห่งวิศวกร (Locomotive Engineers) ผู้ฝึกหัดของหัวรถจักร (Trainmen) แผนกขนส่งของสมาคมระหว่างประเทศ (International Association of Sheet Metal) ของสมาคมคนงานโลหะแผ่น ทางอากาศ ทางรถไฟ และการขนส่งระหว่างประเทศ จะเข้าสู่การประนอมข้อพิพาทดังกล่าวที่เกี่ยวกับนโยบายการทำงานใหม่ที่กำหนดให้มีผลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่ากันว่านโยบายนี้เพิ่มความเข้มงวดในระเบียบ และความซับซ้อนที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้พนักงานทุกคนได้รับคะแนน และเสียคะแนนที่ขึ้นอยู่กับจำนวน “เวลา” ที่พวกเขาทำงาน
อาจกล่าวได้ว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้พนักงานไม่สามารถกำหนดวันหยุดได้ และจะต้องมีการหมุนเวียนการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นอนุญาตให้สมาชิกสหภาพมีวันหยุด 7 วันต่อเดือน ตัวแทนจากสหภาพแรงงานยังเสริมอีกด้วยว่านโยบายใหม่ซึ่งเป็นระบบที่ใช้คะแนนเป็นฐานลงโทษพนักงานสำหรับการหยุดงาน กระนั้น สหภาพแรงงานยังอ้างว่านโยบายใหม่นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการละเมิดข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมกันซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นข้อพิพาท “สำคัญ” ไม่ใช่เรื่องที่เล็กน้อยตามคำระบุของศาล
โรเบิร์ต มัวร์ พนักงานรถไฟบรรทุกสินค้าในเมืองวินสโลว์ รัฐแอริโซนา วิพากษ์วิจารณ์นโยบายดังกล่าวว่ามันเป็นการพรากช่วงเวลาของพวกเขาที่จะได้อยู่กับครอบครัวออกไป และทุกคนต่างเห็นพ้องกันเป็นเสียงเดียวกัน ด้วยเหตุนี่จึงเป็นที่มาของการที่ ประมาณ 17,000 คน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานกว่า 30,000 คน ขู่ว่าจะหยุดทำงานเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านนโยบาย ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าและสินค้าทั่วสหรัฐฯ หยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในคดีความนี้ได้ระบุลักษณะความขัดแย้งว่าเป็น “ข้อพิพาทเล็กๆ” ที่อยู่ภายใต้กระบวนการตีความสิทธิที่มีอยู่ภายใต้ข้อตกลงของการเจรจาต่อรองร่วมกับสหภาพแรงงาน ซึ่งหมายความว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องได้รับการแก้ไขโดยการเจรจา หรือการอนุญาโตตุลาการ ไม่ใช่โดยการนัดหยุดงาน