ศาลอุทธรณ์แห่งรัฐเซาเปาโลเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการเนื่องจากการละเมิดหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลของอนุญาโตตุลาการ
ในวันที่ 11 สิงหาคม 2020 ศาลอุทธรณ์แห่งรัฐเซาเปาโลประเทศบราซิลได้ทำการเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการตามคำขอของฝ่ายผู้ร้องซึ่งเป็นบริษัทประกันภัย เนื่องจากประธานของคณะ[LG1] อนุญาโตตุลาการนั้นไม่ได้เปิดเผยว่าเขาได้รับการแต่งตั้งจากคู่สัญญาฝ่ายอื่นในกระบวนอนุญาโตตุลาการเรื่องอื่น ซึ่งตามมาตรา 14 ของพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการของบราซิลนั้นได้บัญญัติให้อนุญาโตตุลาการมีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่อาจก่อให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับความเป็นอิสระและความเป็นกลางได้
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
กรณี Fazon
กระบวนอนุญาโตตุลาการเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2015 และคณะอนุญาโตตุลาการได้ทำคำชี้ขาดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้น ผู้ถูกร้องได้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการรายหนึ่งให้เป็นประธานในกรณี Fazon นี้ และก็ได้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการรายเดียวกันนั้นในกระบวนการอนุญาโตตุลาการอื่นซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสัญญาที่มีความคล้ายคลึงกันซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันภัยอื่น อย่างไรก็ตาม อนุญาโตตุลาการได้ทำการเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการทำคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการแล้ว
การยอมรับการแต่งตั้งเป็นอนุญาโตตุลาการนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2016 อนุญาโตตุลาการนั้นได้แจ้งให้คู่พิพาทได้ทราบในคำสั่งกระบวนการพิจารณาที่ 33 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2018 หรือเป็นเวลามากกว่า 18 เดือนหลังจากการแต่งตั้ง
เหตุผลประกอบคำตัดสิน
ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการของบราซิลนั้น ผู้ที่จะสามารถทำหน้าที่อนุญาโตตุลาการได้ก็ต่อเมื่อคู่พิพาทที่เกี่ยวข้องนั้นให้ความไว้วางใจ[LG2] [1] ดังนั้นจะเห็นได้ว่า อนุญาโตตุลาการนั้นมีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อเท็จจริงใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดข้อสงสัยหรือเกิดความกังขาที่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับความเป็นอิสระและความเป็นกลางได้
จากบทบัญญัติเหล่านี้ศาลได้เน้นย้ำว่า การเปิดเผยเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนุญาโตตุลาการนั้นมีอิทธิพลเกี่ยวกับความไว้เนื้อเชื่อใจในการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการเป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในการตัดสินใจของคู่พิพาทว่าจะแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการรายนั้นหรือไม่ นอกเหนือไปจากนี้นั้น ยังเน้นย้ำด้วยว่า หากมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการแล้วก็ตาม อนุญาโตตุลาการนั้นจะต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้นให้คู่พิพาทรับทราบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ความเห็นของศาลในเรื่องนี้นั้นค่อนข้างมีความชัดเจนมาก ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถและความเชี่ยวชาญใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับความยุติธรรมและความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการนั้นจะต้องแจ้งให้แก่คู่พิพาทได้ทราบทันที
ที่น่าสนใจต่อมาก็คือ ศาลนั้นได้ทำการเปรียบเทียบหน้าที่ของผู้พิพากษาในเรื่องของความเป็นกลางกับอนุญาโตตุลาการ โดยเน้นย้ำว่าในว่าผู้พิพากษานั้นอยู่ภายใต้ข้อจำกัด กล่าวคือ หน้าที่ของผู้พิพากษานั้นได้มีการกำหนดในรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการห้ามทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาต่าง ๆ แต่ในทางกลับกันนั้นอนุญาโตตุลาการนั้นไม่ได้มีหน้าที่อยู่ภายใต้กฎหมายเหล่านี้ แต่อย่างไรกีดีอนุญาโตตุลาการนั้นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลโดยต้องเป็นการเปิดเผยที่โปร่งใสและเป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง ทั้งนี้ไม่เพียงเปิดเผยก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น หากภายหลังที่มีการแต่งตั้งแล้วแล้ว ทันทีที่มีข้อเท็จจริงใหม่ที่เกิดขึ้นแม้ในระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการก็ตาม อนุญาโตตุลาการก็มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนี้ด้วย
ศาลได้พิจารณาแล้วว่า ในกรณีนี้ อนุญาโตตุลาการที่ทำหน้าที่ประธานนั้นได้ละเมิดต่อหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนี้ ซึ่งคือการที่ไม่ทำการแจ้งให้คู่พิพาททราบเกี่ยวกับการแต่งตั้งเป็นอนุญาโตตุลาการร่วมในกระบวนการอนุญาโตตุลาการอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกันโดยเร็วที่สุด ดังนั้นศาลจึงเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในกรณีนี้
คำตัดสินในกรณีนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการกำหนดมาตรฐานระดับสูงสำหรับความเป็นอิสระและความเป็นกลางของอนุญาโตตุลาการเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องในหน้าที่ที่สำคัญของการเปิดเผยข้อมูลของอนุญาโตตุลาการอีกด้วย นอกเหนือไปจากนี้ ในเดือนเมษายนปี 2017 นั้น ศาลก็ได้เคยใช้มาตรฐานดังกล่าวในการปฏิเสธไม่บังคับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำขึ้นในสหรัฐอเมริกา (กรณี Abengoa) ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการไม่เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานกฎหมายของอนุญาโตตุลาการนั้น
จากบราซิลถึงสหราชอาณาจักร
เมื่อไม่นานมานี้ ศาลฎีกาของสหราชอาณาจักรได้มีคำตัดสินคดี Halliburton v Chubb ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของอนุญาโตตุลาการในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ ศาลยืนยันว่าอนุญาโตตุลาการมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเปิดเผยสถานการณ์ที่จะหรืออาจจะก่อให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นกลางและความยุติธรรมของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งกรณีนี้หมายรวมถึงการยอมรับการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการรายเดิมซ้ำหลายครั้งด้วย เมื่อได้พิจารณาจากทั้งกรณี Fazon และ Haliburton v Chubb แล้วจะเห็นได้ว่าทั้งบราซิลและสหราชอาณาจักรนั้นให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อเท็จจริงซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดความสงสัยในความเป็นกลางและความยุติธรรมของอนุญาโตตุลาการได้อย่างเห็นได้ชัด และกรณีเหล่านี้ก็จะเป็นบรรทัดฐานในการเปิดเผยข้อมูลของอนุญาโตตุลาการต่อไปในอนาคต
ที่มา:
[1] Article 13, Law 9.307 of 1996: Any capable person who has the confidence of the parties can be an arbitrator.