สรุป 6 ไฮไลท์จากการประชุม ICC MENA ประจำปี 2564 เรื่องอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
ICC หรือหอการค้าระหว่างประเทศ (International Chamber of Commerce) ได้จัดการประชุม ICC MENA[1] ว่าด้วยอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นการจัดการประชุมแบบดิจิตัลครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา
บทความนี้จะเป็นการสรุป 6 ไฮไลท์ที่น่าสนใจจากการประชุมนี้
1.ประธานศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC และประธานบริหาร Abu Dhabi Global Market หรือ ADGM ประชุมหารือการเปิดสำนักงานจัดการคดีแห่งใหม่ของ ICC ณ Abu Dhabi Global Market Arbitration Centre
ในการประชุม MENA ครั้งนี้ ประธานศาล ICC และประธานบริหาร ADGM ได้ร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดศูนย์จัดการข้อพิพาทแห่งที่ 5 ของ ICC ภายใน Abu Dhabi Global Market Arbitration Centre ต่อจาก จากฮ่องกง นิวยอร์ก เซาเปาโล และสิงคโปร์ อันเป็นผลมาจากความต้องการในการระงับข้อพิพาททางเลือกที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางนี้ นอกเหนือไปจากนี้ การประชุม MENA ครั้งนี้จะเป็นการประชุม MENA ครั้งสุดท้ายของนาย Mourre ในฐานะประธานศาล ICC ทั้งนี้ Claudia T. Salomon มีกำหนดจะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Mourre หลังการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนสำหรับวาระที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
2. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเห็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการพิจารณาคดีในกระบวนการอนุญาโตตุลาการใน MENA
เริ่มต้นที่นาย Mohamed S Abdel Wahab ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ Zulficar & Partners ทำการสำรวจความเห็นของผู้เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยมีการสำรวจว่า ศาลระดับชาติในภูมิภาค MENA นั้นเอื้อต่อการอนุญาโตตุลาการมากขึ้นหรือไม่ โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 62% ตอบว่า ใช่ ในขณะที่ 8% ของผู้ตอบแบบสำรวจตอบว่า ไม่ และ 3% ไม่แน่ใจ อีกทั้งยังมีการสำรวจความเห็นของผู้เข้าร่วมว่า นโยบายสาธารณะของศาลเพื่อที่จะเพิกถอน (set aside) หรือปฏิเสธการบังคับใช้ ( refuse enforcement) คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในภูมิภาค MENA นั้นมีความเข้มงวดมากกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรือไม่ ซึ่งผู้เข้าร่วมเกือบ 35% ตอบว่าใช่ 25% ตอบว่าไม่ และผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 40% นั้นไม่แน่ใจ สำหรับคำถามสุดท้ายนั้น นาย Wahab ได้สอบถามว่า ภูมิภาค MENA นั้นจะสามารถปรับปรุงการบังคับใช้คำชี้ขาดภายในภูมิภาคได้หรือไม่ ผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 38% เชื่อว่าการเสริมสร้างระบบภายในศาลสำหรับการบังคับใช้คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในขณะที่ 26% นั้นมองว่าการประยุกต์ตามหลักการภายใน New York Convention อย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด 22% ของผู้เข้าร่วมมองว่า การปรับปรุงขั้นตอนบงคับใชคำชี้ขาดให้ง่ายขึ้นจะช่วยให้บังคับใช้คำชี้ขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้เข้าร่วม 14% มองว่า ควรมีการปรับปรุงกฎหมายอนุญาโตตุลาการ
ต่อมา นาย Bassam Mirza ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง PKM Avocats ได้กล่าวถึงประเด็นทางกฎหมายทียุ่งยากที่ว่าด้วยสัญญาตัวแทนทางการค้าในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค MENA ซึ่งปัญหาที่เป็นประเด็นนั้นเกี่ยวข้องกับกับความไม่สมบูรณ์ของอนุญาโตตุลาการในสัญญาตัวแทนการค้า ซึ่งนาย Mirza ได้เน้นถึงผลกระทบของการคุ้มครองที่อาจมีผลต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ อีกทั้งได้มีการวิเคราะห์แนวทางต่าง ๆ เพื่อที่จะนำมาใช้ในแต่ละเขตอำนาจศาล ทั้งนาย Mirza ได้เสนอให้จัดการเรื่องดังกล่าวโดยอาศัยกฎหมายระหว่างประเทศเนืองมาจากกฎหมายขัดกันและอำนาจศาลระหว่างประเทศ อีกทั้งแนะนำให้มีการสร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นในระบบการอนุญาโตตุลาการเสรีและการเคารพข้อกำหนดและกฎหมายนานาชาติ
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
นาย Ali Al Hashem จาก Global Advocacy and Legal Counsel นั้นได้กล่าวถึงการพัฒนาการเชิงบวกของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) รวมถึงการนำกฎหมายอนุญาโตตุลาการสมัยใหม่มาใช้ ทั้งนี้นาย Hashem ยอมรับว่า การอนุญาโตตุลาการนั้นยังอยู่ภายใต้การพิจารณาของศาล และได้กล่าวถึงจำกัดในการเพิกถอนคำตัดสิน นาย Al Hashemi เน้นย้ำว่ายังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุง โดยชี้ให้เห็นถึงกฎหมายกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมของฝ่ายต่าง ๆ ในกระบวนการพิจารณาคดีที่รอการพิจารณาของศาล แม้ว่าจะมีข้อตกลงอนุญาโตตุลาการหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความสามารถในการลงนามในข้อตกลงอนุญาโตตุลาการและความไม่สมบูรณ์ของข้อตกลงอนุญาโตตุลาการดังกล่าว โดยนาย Hashem มองว่าปัญหาดังกล่าวนี้ยังมีช่องว่างและสามารถปรับปรุงได้
ทางด้านของนาย Ahmed Ouerfelli ทนายความด้านกฎหมายของ Ouerfelli Attorneys and Counsels ได้สำรวจแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการโดยศาล รวมไปถึงประเด็นการบังใช้นโยบายสาธารณะทั่วไป ซึ่งตามทรรศนะของนาย Ouerfelli นั้น ผู้พิพากษามีแนวโน้มที่จะเป็นมิตรกับการอนุญาโตตุลาการมากขึ้นทั้งนี้โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นกฎหมายที่วางขอบเขตของอำนาจของผู้พิพากษาไว้อย่างชัดเจน รวมไปถึงอิทธิพลของสถาบันอนุญาโตตุลาการที่จัดตั้งขึ้นใหม่และการที่คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนั้นได้เป็นการเปิดเผยต่อสาธารณะ อย่างไรก็ดี เนื่องมาจากการไม่มีแบบอย่างในเรื่องนโยบายสาธารณะทำให้เกิดความไม่แน่นอน ดังนั้นนาย Ouerfelli จึงได้แนะนำถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อแนวทางที่เป็นเอกภาพในนบายสาธารณะโดยอ้างอิงจากสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงความยุติธรรมและสิทธิในทรัพย์สิน
สุดท้ายนาง Dame Elizabeth Gloster Dame Elizabeth Gloster อดีตผู้พิพากษาและอนุญาโตตุลาการคนปัจจุบันของ One Essex Court ได้สนทนาเกี่ยวกับการที่ผู้เกี่ยวข้องหลาย ๆ ฝ่ายนั้นได้ตอบสนองต่อความคาดหวังของคู่พิพาทฝ่ายต่าง ๆ ในการจัดการกระบวนยุติธรรมอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิกถอนหรือการไม่รับรู้ (non-recognition ) คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ โดยที่นาง Gloster ได้กล่าวว่า ADGM นั้นเป็นที่นั่งพิจารณาที่ปลอดภัยและมั่นคงนสำหรับกระบวนการอนุญาโตตุลการหรือไม่ นาง Gloster ยังได้ยกตัวอย่างโดยอาศัยประสบการณ์ของเธอในฐานะผู้พิพากษาของ ADGM และได้นำเสนอแนวทางที่เป็นมิตรต่อการอนุญาโตตุลาการของ ADGM นอกเหนือไปจากนี้ นาง Gloster ยังได้นำเสนอวิธีในการตัดสินและการทำคำชี้ขาดรวมไปถึงการอนุญาโตตุลาการที่เป็นต่อ ADGM นาง Gloster ยังได้สรุปว่า คู่ความนั้นมีสิทธิคาดหวังว่ากระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้นจะมีการดำเนินการโดยนำขั้นตอนการจัดการที่เข้มงวดมาใช้ และไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การตัดสินใจง่าย ๆ บนพื้นฐานของความกลัวและ “ความหวาดระแวงในกระบวนการ” และการที่อนุญาโตตุลาการนั้นมีสิทธิ์คาดหวังการยื่นหลักฐานที่เป็นความจริงจากฝ่ายต่าง ๆ อีกด้วย
3.สำนักงานจัดการคดีแห่งใหม่ของ ICC และการเพิ่มมูลค่า
สาเหตุของการเปิดศูนย์จัดการคดีแห่งใหม่ของ ICC ในถูมิภาค MENA นั้น นาย Alexander G. Fessas ซึ่งเป็นเลขานุการของ ICC ได้กล่าวว่า มาจากความต้องการที่สูงในการระงับข้อพิพาทด้วยการอนุญาโตตุลาการในภูมิภาค อีกทั้งการจัดตั้งสำนักงานจัดการคดีนี้มีวัตถุประสงค์ลหลักในการเพื่อให้สามารถสนับสนุนผู้มีความสามารถในภูมิภาค ทั้งนี้ ICC เชื่อมั่นในผลประโยชน์ที่หลากหลายนำมาซึ่งการระงับข้อพิพาท โดยที่สำนักงานภูมิภาค MENA นี้จะทำงานร่วมกับสำนักเลขาธิการของ ICC ที่ประเทศฝรั่งเศส และเปิดดำเนินการในเดือนเมษายน 2021 ทั้งนี้ นาย Adam Peters ซึ่งเป็น ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสของ ADGM Courts ได้กล่าวถึงการประโยชน์ของสำนักงานคดีแห่งใหม่นี้ว่า เป็นการเน้นย้ำถึงได้เน้นย้ำถึงกรอบการทำงานด้านกฎหมายที่แข็งแกร่งของ ADGM รวมไปถึงกระบวนการอนุญาโตตุลาการที่เป็นมิตรและการสนับสนุนกระบวนการอนุญาโตตุลาการ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินกระบวนพิจารณาทั้งแบบต่อหน้าและทางไกลหรือการพิจารณาคดีแบบเสมือนจริง ดังนั้น คู่พิพาทจึงสามารถมั่นใจในการบริการของศูนย์จัดการคดีแห่งใหม่นี้ได้ อีกทั้งการสิ่งเหล่านี้ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและจุดยืนในตลาดโลกอีกด้วย โดยที่นาย Ziva Filipic ที่ปรึกษาด้านการจัดการของศาลอนุญาโตตุลาการของ ICC เปิดเผยว่าในขณะที่สำนักเลขาธิการของ ICC ในกรุงปารีสมีความเชี่ยวชาญและมีจรรยาบรรณในการทำงานสูงอยู่เสมอ สำนักงานแห่งใหม่นี้จะช่วยให้ ICC สามารถให้บริการในระดับท้องถิ่นที่สูงขึ้นไปอีก
4. การอภิปรายแบบไดนามิกเกี่ยวกับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของหลักฐานจาผู้เชี่ยวชาญในข้อพิพาทด้านโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานนั้น วิทยากรได้อภิปรายข้อสงสัยที่เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นของหลักฐานจากผู้เชียวชาญ และกล่าวว่าศาลจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถเข้าใจและตัดสินใจในคดีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการอภิปรายนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Alex Bevan หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่ายอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่ Shearman & Sterling
Sabrina Ainouz หุ้นส่วนของ Squire Patton Boggs ได้กล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญมีความจำเป็นสำหรับทั้งที่ปรึกษาและคณะตุลาการเพื่อให้สามารถเข้าใจและตัดสินใจในประเด็นที่สลับซับซ้อนที่มีความเสี่ยง เป็นหน้าที่ของที่ปรึกษาที่จะต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำเสนอกรณีของลูกค้าอย่างถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญยังเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจและกำหนดกรอบคดีของที่ปรึกษาอีกด้วย
อย่างไรก็ดี Ms Ainouz Roberta Downey หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและวิศวกรรมระดับโลกที่ Hogan Lovells แย้งว่าคดีควรได้รับการตัดสินตามเอกสาร Downey ได้กล่าวว่า การระบุข้อเท็จจริงของคดี ข้อเท็จจริงของคดี พยานข้อเท็จจริงที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งติดตามโครงการสามารถอ่านเอกสารและนำเสนอต่อคณะอนุญาโตตุลาการได้ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเป็นเพียงเครื่องมือที่คู่กรณีจะพยายามสืบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้เพราะพยานผู้เชี่ยวชาญนั้นบางครั้งไม่ได้อยู่ที่ไซด์งานโดยตรง และวิธีการของพยานผู้เชี่ยวชาญนั้นเป็นไปตามทฤษฎีโดยอาศัยความเห็นจากข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งบางครั้งอาจไม่สมบูรณ์หรือไม่เพียงพอ นอกจากนี้ บุคคลที่แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญจบลงด้วยความรู้สึกเข้าข้างและไม่สามารถเป็นอิสระได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมักจะมากกว่าการใช้ทีมงานภายในองค์กร
ถัดมา Iryna Akulenka ที่ปรึกษาด้านการจัดการของ HKA เน้นว่าเป้าหมายหลักของผู้เชี่ยวชาญคือการให้ความรู้เฉพาะทางแก่ศาล นั่นคือเหตุผลที่เธอกล่าวว่าศาลจะยังคงขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ Akulenka กล่าวต่อไปว่าแม้ว่าตอนนี้ฝ่ายต่าง ๆ จะใช้อัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์ในการตีความข้อมูลขนาดใหญ่ แต่การใช้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำหน้าที่นี้ยังคงทำเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่เข้าใจได้สำหรับศาล อีกทั้ง Akulenkaยังแย้งว่าอนุญาโตตุลาการมักจะตัดสินใจอย่างอิสระโดยไม่ได้รับอิทธิพลจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นฝ่ายต่างๆ ควรใช้สิทธิ์ในการเลือกอนุญาโตตุลาการอย่างชาญฉลาดเสมอ ทั้งนี้คู่พิพาทต้องรู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่าการตัดสินใจจะได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ
Andrew Mellor กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการให้คำปรึกษาด้านการก่อสร้างของ J.S.Held แย้งว่าในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมีความสามารถและมีทักษะที่เป็นประโยชน์ ทนายสองฝ่ายสำหรับกรณีเดียวกันก็ไม่จำเป็น เขาได้อธิบายถึงผู้เชี่ยวชาญหลายประเภทและผลกระทบด้านลบต่อกรณีของตนโดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญที่รับรู้ นาย Mellor กล่าวว่าพยานผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างหลายคนไม่เข้าใจถึงความแตกต่างของขั้นตอนของกระบวนการอนุญาโตตุลาการที่ซับซ้อนรวมไปถึงไม่เข้าใจกระบวนการและการให้บริการ
5. การยกย่อง Sami Houerbi สำหรับการบริการ ICC เกือบ 25 ปี
มีการสัมภาษณ์ Houerbi โดย Sana Belaid ที่ปรึกษาอาวุโสของ CISCO และสมาชิกของศาล ICC เกี่ยวกับการทำงานกับสถาบันอนุญาโตตุลาการชั้นนำของโลก
6. ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์ของ ICC MENA
กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดโดย ICC MENA นั้นมีทั้งการฝึกอบรมระดับสูงโดย โดย ICC Institute of World Business Law เกี่ยวกับการดำเนินการดำเนินคดีและการจัดการกรณีจากมุมมองของอนุญาโตตุลาการ การฝึกอบรมซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ 60 คน เป็นการฝึกอบรมครั้งแรกสำหรับ Eduardo Silva Romero ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสถาบัน ICC อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม
นอกเหนือไปจากนี้ยังมีการสัมมนา ICC SME Labs ซึ่งเป็นการหารือถึงวิธีการไกล่เกลี่ยที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสตาร์ทอัพ ห้องปฏิบัติการ SME มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุใดการป้องกันข้อพิพาทและการระงับข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการบริหารความเสี่ยงสำหรับธุรกิจทุกขนาด และวิธีที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกกลไกที่เหมาะสมที่สุดที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด นอกเหนือไปจากนี้ยังมีการฟอรัมอนุญาโตตุลาการ ICC รุ่นเยาว์ – ซึ่งให้โอกาสที่หลากหลายแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีในการได้รับความรู้ พัฒนาทักษะ และเข้าใจขั้นตอนอนุญาโตตุลาการของ ICC และบริการระงับข้อพิพาทอื่น ๆ และยังได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับหารือเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาคที่เป็นผลกระทบจาก COVID-19 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาอีกด้วย
ที่มา:
- [1] MENA: Middle East and North Africa หรือภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ