อังกฤษปฏิเสธชัด! ไม่มีเอี่ยวความล้มเหลวขาย ‘นิวคาสเซิ่ล’
ความล้มเหลวของการซื้อ-ขาย สโมสรนิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด ของกลุ่มทุนซาอุดีอาระเบีย เมื่อปีที่แล้วนั้น มีเรื่องต้องสงสัยว่าอังกฤษมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า การเจรจาซื้อ-ขายกิจการใด ๆ ก็ตามเป็นเรื่องระหว่างทั้งสองฝ่ายที่จะต้องไปตกลงกันเอาเองเท่านั้น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่าดึงไปเอี่ยว ถึงแม้ทางรัฐบาลอังกฤษยอมรับว่ามีการพบปะหารือกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษจริงก็ตาม
กลุ่มทุนซาอุดีอาระเบีย อันประกอบไปด้วย กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund) หรือ พี่ไอเอฟ (PIF), พีซีพี แคปปิตอล พาร์ตเนอร์ส (PCP Capital Partners) และ รูเบน บราเธอร์ส (Reuben Brothers) ได้จับมือตกลงซื้อ “นิวคาสเซิ่ล” จาก สปอร์ตส์ ไดเรกต์ (Sports Direct) ห้างกีฬาของ ไมค์ แอชลี่ย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2020 หลังจากพลาดการซื้อกิจการสโมสรนิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ดเมื่อปีก่อนเพราะการตรวจสอบอันยืดเยื้อของพรีเมียร์ลีก
โดยกลุ่มทุนดังกล่าวได้กล่าวว่า “เรานักลงทุนทางการค้า ที่บริสุทธิ์และเป็นอิสระ” การถอนตัวจากการซื้อกิจการกิจการสโมสรนิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ดนั้น เป็นเพราะ “กระบวนการที่ไม่อาจคาดเดาอันยาวนาน” ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษเอง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พรีเมียร์ลีกจะระบุว่า คณะกรรมการบริหาร “พิจารณากันมาแล้วหลาย ครั้งเกี่ยวกับนิติบุคคลที่เชื่อว่าจะมีอำนาจ ควบคุมดูแลสโมสร” ถ้ากลุ่มทุนนี้จะเดินหน้า ทำข้อตกลงต่อไป
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
การตรวจสอบอันยาวนานและไม่มีท่าทีที่จะสิ้นสุดของพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องข้อเสนอขอซื้อกิจการ สโมสรนิวคาสเซิ่ล สร้างความไม่พอใจให้กับแอชลี่ย์เป็นอย่างมาก ถึงขั้นพยายามที่จะตั้งอนุญาโตตุลาการเพื่อชำระสะสางข้อขัดแย้งดังกล่าว
ทางฝ่ายรัฐบาลอังกฤษเอง ต่างก็ปฏิเสธหนักแน่นถึงการแทรกแซงการซื้อ-ขาย โดย โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา กล่าวว่า “เป็นเรื่องของ พรีเมียร์ลีก เท่านั้นที่จะประเมินความเป็นไปได้ในการเข้ามาครอบครองสโมสรฟุตบอลภายใต้การกระบวนการตรวจสอบเจ้าของและผู้บริหารขององค์กรเอง” หรือก่อนหน้านี้ที่ เจมส์ เคลฟเวอร์ลี่ย์รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เคยกล่าวว่า มีการประชุมเสมือนจริงสองครั้งระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและเครือจักรภพกับพรีเมียร์ลีกเกี่ยวกับการเทกโอเวอร์ “นิวคาสเซิ่ล”
ทั้งนี้ประเด็นการซื้อ- ขายดังกล่าว เป็นเพราะรัฐบาลอังกฤษเองอาจจะมีแนวคิดในแง่ที่ไม่ต้องการให้บริษัทเอกชน เข้ามามีอิทธิพลต่อคณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ก็เป็นได้
แอชลี่ย์ ยังคงหวังจะรีบขายทีมของตัวเองออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ เคยให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ตส์ (Sky Sports) สื่อกีฬาดังเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า สโมสรจะต่อสู้เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่สโมสร “สมควรจะได้รับ” ให้จงได้
ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า กลุ่มทุนดังกล่าวได้ย้อนกลับมาเดินเรื่องซื้อ นิวคาสเซิ่ล อีกครั้งแล้ว โดยคาดว่าผลการไต่สวนโดยอนุญาโตตุลาการอิสระที่มีคู่กรณีคือพรีเมียร์ลีก ที่ประสบความสำเร็จ น่าจะนำไปสู่การปิดดีลต่อ ไปได้ในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แอชลี่ย์ ได้สั่งปิดกิจการร้านค้าปลีกของสโมสร ณ สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ซึ่งจะทำให้พนักงานทั้งหมดต้องพ้นจากหน้าที่การงาน โดยคาดว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามข้อตกลงกับกลุ่มทุนชาอุฯ ที่กำลังจะก้าวเข้ามาครอบครองกิจการแทนตนเอง หรือจะเป็นการปิดทำการเพื่อปรับปรุงกิจการรองรับเจ้าของใหม่ก็อาจเป็นได้
ที่มา iQNewsAlert : Story (iqnewsclip.com)