เป็นงง! ภาพยนตร์ “ท็อปกัน” ถูกจีนระงับไม่ให้ฉายหลังปรากฏธงชาติ “ไต้หวัน” ด้านหลังเสื้อ “ทอมครูซ”
เดลี่เมล์ สำนักข่าวชื่อดังประจำเกาะอังกฤษ รายงานถึงเรื่องราวที่ชวนงงปนสงสัยกับการถอดภาพยนตร์เรื่อง
“ท็อปกัน” นำแสดงโดยพระเอกชื่อดัง “ทอ ครูซ” ทุกรอบการแสดงที่จะฉายในประเทศจีน เมื่อมีฉากหนึ่งที่ปรากฏธงชาติไต้หวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างจีน และไต้หวันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์ต่างๆจากอุตสาหกรรมฮอลลีวูด (Hollywood) นั้นมีการเซ็นเซอร์ธงชาติไต้หวัน รวมถึงญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562 (2019) เนื่องด้วยความกังวลต่อผลกระทบที่มีต่อตลาดจีน โดยรายงานดังกล่าวได้วิเคราะห์ไปว่าการนำธงชาติของประเทศต่างๆที่เป็นคู่พิพาทกับทางการจีนนั้น สืบเนื่องมาจากนโยบายรัฐบาล โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา ที่เร่งเครื่องกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆที่มีประเด็นข้อพิพาทกับจีน เช่น ฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งไต้หวัน ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนไปที่ภาพยนตร์ “ท็อปกัน” ที่เคยฉายแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2529 ตัวละครในเรื่องดังกล่าวมีการติดธงชาติทั้งไต้หวัน และญี่ปุ่น เพื่อรำลึกตามเนื้อเรื่อง แต่อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากภาพยนตร์ตัวอย่าในเวอร์ชั่นปัจจุบันธงชาติดังกล่าวกลับถูกเปลี่ยนไปเป็นสัญลักษณ์อื่นแทน คาดว่ามาจากบริษัทเทนเซ็นต์ พิกเจอร์ (Tencent Picture) กลุ่มผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ของจีน และร่วมลงขันในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
เรื่องราวเหมือนกับว่าจะจบลงด้วยดี แต่เมื่อมีการเปิดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ออกไปนั้น กลับพบว่าธงชาติทั้งไต้หวัน และญี่ปุ่น ถูกกลับมาติดที่หลังเสื้ออีกครั้ง แถมยังขยายเน้นให้เห็นชัดเจนอีกด้วย ฉากดังกล่าวมาพร้อมกับความไม่พอใจของทั้งแฟนภาพยนตร์ชาวจีน และแน่นอนบริษัทเทนเซ็นต์ พิกเจอร์ จึงได้ตัดสินใจนำภาพยนตร์ดังกล่าวออกจากทุกกำหนดการฉายทันที เพราะเกรงว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะไม่ชอบใจแน่นอน จึงจำเป็นต้องถอดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างประเทศนี้ออกไป
ทั้งนี้ ในมุมมองทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการเมืองนั้น “ไต้หวัน” ถือเป็นมณฑลหนึ่งของจีน การปรากฏซึ่งธงชาติไต้หวันนั้นถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และท้าทายทางการจีนพอสมควร ทั้งนี้ทางการจีนยังระบุอีกด้วยว่า สหรัฐฯ
ที่นำโดย โจ ไบเดน พยายามจะใช้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในการสร้างภาพวายร้ายในกับทางรัฐบาลจีน เพราะมีอีกหลายเรื่องที่กลุ่มทุนจากจีนต้องดำเนินการลบภาพในลักษณะเหล่านี้ออก และเปลี่ยนเป็นเส้นเรื่องแบบอื่นแทน