แฉดาราชาย เซ็กส์จัดซุกลูก-เมีย หลอกสาวซ้ำทำร้ายร่างกายเกือบตายคาเตียง
แฉความลับสนั่นวงการบันเทิง สาวเบื้องหลังออกมาแฉ ว่าตนมีความสัมพันธ์ร่วม 2 ปีกับดาราชายลวงรัก ปิดบังแอบซุกลูกซุกเมีย ทำร้ายร่างกายตน แถมบีบคอเกือบตายคาเตียง
เป็นอีกหนึ่งข่าวอื้อฉาวของวงการบันทิง ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 สาวทำงานเบื้องหลัง เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนถูกดาราชายทำร้ายร่างกาย พร้อมเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับดาราชายมานานเพราะตนทำงานเบื้องหลัง เมื่อปี 2561 ดาราชายได้แอด facebook มาคุยหยอกล้อทำนองจีบ ก็คุยกันมาเรื่อยๆ กระทั่งปี 2562 ได้มีการไปกินข้าว มีดื่มมาบ้างจนตนเองเมา ฝ่ายชายจึงอาสาพามาส่งที่ห้อง เมื่อถึงและกำลังจะลงจากรถ ฝ่ายชายได้ใช้กำลังปล้ำตนโดยไม่ได้ป้องกัน และพูดกับตนว่า “เป็นแฟนกันนะ จะรับผิดชอบ จะดูแล”
ซึ่งหลังจากวันนั้นฝ่ายชายก็ทำให้ตนไว้ใจ กระทั่งมีคนมาบอกให้ระวังผู้ชายคนนี้ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ จนตนแอบสืบทราบได้ว่า ฝ่ายชายมีลูกและมีเมียแล้ว แต่ฝ่ายชายอ้างว่า ได้เลิกกับผู้หญิงไปแล้ว และติดต่อกับแฟนเก่าในฐานะแม่ของลูกและคนที่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น ซึ่งตนก็เชื่อใจแต่ก็แอบไม่พอใจเรื่องที่ฝ่ายชายมีความต้องการมากเกินไป เจอกันทุกครั้งต้องมีเซ็กส์ทุกครั้ง กระทั่งปลายปี 2563 ตนจับได้ว่าฝ่ายชายแอบไปทำบุญกับลูกกับเมีย อีกวันฝ่ายชายจึงชวนตนไปกินข้าว พาไปโรงแรมและจบลงที่เซ็กส์ ขณะที่ฝ่ายชายหลับ ตนได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปแฟน จนฝ่ายชายตื่นพร้อมพูดว่า “เห้ย มึงถ่ายอะไรวะ” ตนเองตกใจมาก ฝ่ายชายไม่พอใจ มีการกระชากมือถือเพื่อลบรูป พร้อมกล่าวหาว่าฝ่ายหญิงจะถ่ายเพื่อนำไปโพสต์ โดยระแวงว่าจะมีผลกระทบเรื่องงาน จากนั้นฝ่ายชายก็มีการทำร้ายร่างกายจนตนรู้สึกเจ็บและร้องให้มีคนช่วย ฝ่ายชายยิ่งไม่พอใจ ถึงตะคอกว่า “มึงจะเอาอย่างงี้ใช่ไหม” พร้อมขึ้นคร่อม และถูกบีบคอ ปิดปาก ปิดจมูก จนตนต้องร้องออกมาว่า “หายใจไม่ออก” ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิดแค่ถ่ายรูป สุดท้ายฝ่ายชายยอมปล่อย ต่อมามีคนมาเคาะประตูคาดว่าน่าจะเป็น รปภ. ตนจึงร้องให้ช่วย ก็มีการเชิญตนเองและฝ่ายชายไปข้างล่าง ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ และฝ่ายชายก็ขับรถกลับออกไป หลังจากนาทีนั้นตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
ข่าว/บทความที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้การออกมาพูดครั้งนี้ เพราะตนอยากบอกฝ่ายชายว่า “ผู้หญิงไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ทางเพศ อย่าเอาชื่อเสียงมาทำร้ายผู้หญิง อาชีพนี้มีดาราหลายคนวางตัวดี ให้เกียรติผู้หญิง แม้วันนี้ตนจะต้องอับอาย แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับคนอื่นก็โอเค และไม่อยากให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อความรัก และผู้ชายควรให้เกียรติอย่าเอาความรักมาอ้างหลอกคนไปทั่ว”
นายธิติธร แก้วโต – ทนายเจมส์ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหญิงสาวในคดีนี้ กล่าวว่า “หญิงสาวรายนี้ได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเรื่องการทำร้ายร่างกายแล้ว คดีแบบนี้ต่อให้มีทะเบียนสมรสหรือต่อให้แต่งงานกันไปแล้ว เป็นสามีภรรยากันก็จริง แต่ไม่สามารถทำร้ายร่างกายกันได้ การทำร้ายร่างกายคนอื่นย่อมเป็นความผิด แต่จะเป็นความผิดโทษฐานร้ายแรงขนาดไหน ต้องไปดูผลของการกระทำนั้นว่าหนักเบาเพียงใด”
อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของการแจ้งความของฝ่ายหญิงครั้งนี้ คือการมอบบทเรียนให้กับผู้ชายที่มาทำร้ายตนเองเท่านั้น ว่า เขาไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และในกรณีนี้มีการไกล่เกลี่ยมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากค่าเสียหายไม่ลงตัว ครั้งต่อไปจะมีการสืบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ทนายเจมส์ยืนยันว่า กรณีแบบนี้ สามารถเรียกค่าเสียหายได้จากใบเสร็จทุกใบที่เป็นค่ารักษาพยาบาล สามารถติดตามความคืบหน้าและอ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.thac.or.th