ฮือฮา JAS เคลียร์พิพาท NT ปิดตำนาน 10 ปี คดีส่วนแบ่งโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ

ฮือฮา JAS เคลียร์พิพาท NT ปิดตำนาน 10 ปี คดีส่วนแบ่งโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ

ปิดตำนาน 10 ปี JAS ส่งบริษัทย่อย JSTC เจรจาประนีประนอมกับ NT หวังยุติคดีชำระส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ จ่อบันทึกเงินสดพร้อมดอกเบี้ยกว่า 4.5 พันล้านบาท คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/64 บริษัทจัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JSTC) เตรียมเข้าเจรจากับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT (เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT) ที่อยู่ในฐานะลูกหนี้การค้าของ JSTC ในข้อพิพาทเรื่องการชำระส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) กับ TOT กว่า 10 ปี

หาก JSTC เจรจาประนีประนอมข้อพิพาทดังกล่าวสำเร็จ JAS ก็มีโอกาสที่จะบันทึกเงินสดเข้ามาประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากยอดหนี้คงค้างประมาณ 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยค้างจ่าย 7.5% ต่อปี จนถึงสิ้นปี 2563 อีกประมาณ 2,027 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าขั้นตอนการเจรจาประนีประนอมกับ NT จะบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในไตรมาส 2/2564 นี้

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 JSTC นำเสนอเรื่องข้อพิพาทกับ TOT ต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เพื่อวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2559 ทาง TOT ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เรียกร้องให้ JSTC คืนเงินส่วนแบ่งรายได้ที่ได้รับเกินตามสัญญาร่วมทุนเดียวกันนี้ พร้อมเรียกร้องค่าเสียโอกาสเป็นจำนวนเงิน 9,931 ล้านบาท

NT มีแผนที่จะนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET) ภายในปี 2564 จึงมีแนวทางที่จะดำเนินการเจรจาประนีประนอมเพื่อชำระหนี้กับคู่กรณีต่าง ๆ ที่มีคดีความค้างกันอยู่ ทั้งในส่วนที่เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ให้เสร็จสิ้นทุกราย ภายในปี 2564 ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ต้องการให้ NT เคลียร์หนี้กับเจ้าหนี้และลูกหนี้ให้เสร็จก่อน จึงจะอนุญาตให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ซึ่ง JSTC ถือเป็นเจ้าหนี้ของ TOT ที่ยังมีเงินคงค้างประมาณ 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยค้างจ่ายอีกประมาณ 2,027 ล้านบาท ที่ TOT ต้องจ่ายให้กับ JSTC รวมเป็นเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาคาดว่าจะจบได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้

ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ทาง JSTC ได้รับคำชี้ขาดจากสถาบันอนุญาโตตุลาการให้ “ TOT ชำระยอดคงค้างรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,395 ล้านบาท และคิดดอกเบี้ยสำหรับยอดคงค้างดังกล่าวในอัตรา 7.5% ต่อปี ต่อไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และให้ JSTC ชำระเงินค่าเสียหายแก่ TOT เป็นจำนวนเงิน 16 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น”  ซึ่งปัจจุบัน TOT ได้ยื่นคำร้องเพิกถอนคำชี้ขาดสถาบันอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกคลองกลางแล้ว และ JSTC ได้ยื่นคำคัดค้านแก้คำร้องต่อศาลปกครองกลางแล้วเช่นกัน ผลของข้อพิพาทดังกล่าวจึงถือว่ายังไม่สิ้นสุด JSTC จึงยังไม่ได้พิจารณาบันทึกรายการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากคำชี้ขาดดังกล่าว และแม้ผลของข้อพิพาทคดีดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดในชั้นศาลฯ แต่ในทางปฏิบัติทาง JSTC กับ TOT สามารถเจรจาประนีประนอมยอมความกันได้ หากบรรลุข้อตกลงการเจรจากันได้แล้ว สามารถนำผลการเจรจาที่ยินยอมกันทั้ง 2 ฝ่ายเสนอต่อศาลฯ เพื่อหาข้อสรุปและยุติคดีต่อไป

ที่มา : ข่าวหุ้น

---

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก THAC ได้ที่ !