ข่าวน่าสนใจ : เล็งจ้าง 450 ล้าน สู้คดี ‘เชฟรอน’ ฟ้องลุ้นได้ข้อยุติ เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการปิโตเลียม โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ได้เห็นชอบการส่งมอบสิ่งติดตั้งหรือแท่นผลิตปิโตรเลียมของแหล่งเอราวัณและบงกช ที่จะสิ้นสุดสัมปทานในช่วงปี 2565-2566 ให้กับรัฐแล้วประมาณ 241 แท่นผลิต เป็นของแหล่งเอราวัณ 191 แท่น ซึ่งรัฐจะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ราว 142 แท่น และทำการรื้อถอน 49 แท่น ส่วนแหล่งบงกชส่งมอบให้รัฐราว 50 แท่น รัฐเก็บไว้ในประโยชน์ราว 46 แท่น และรื้อถอนราว 4 แท่น
การเจรจาวางหลักประกันและค่ารื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมจำนวนดังกล่าว ระหว่าง ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม 2 ราย ได้แก่ บริษัท เชฟรอน คอร์ปอเรชั่นฯ ผู้ดำเนินงานแหล่งเอราวัณ และบริษัท โททาลฯ ยักษ์ใหญ่น้ำมันฝรั่งเศสผู้ถือหุ้นในแหล่งก๊าซบงกช กับคณะกรรมการเจรจาที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าคณะยังไม่ได้ข้อยุติ หลังจากระงับการฟ้องอนุญาโตตุลาการเป็นการชั่วคราว กรณีข้อพิพาทค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมที่รัฐนำไปใช้ประโยชน์ต่อ โดยการเจรจาดังกล่าวมีความยืดเยื้อมากว่า 4 เดือน และมีกรอบการเจรจาที่ต้องให้ได้ข้อยุติอีกราว 2 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากผู้รับสัมปทานไม่รับผลการเจรจา และจะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ก็ต้องเตรียมการรับมือในส่วนนี้ไว้คู่ขนาน ซึ่งได้มีการยกร่างรายละเอียดข้อกำหนดหรือทีโออาร์ ในการว่าจ้างสำนักงานกฎหมายไว้แล้ว ส่วนจะได้ใช้ดำเนินการหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับผลการเจรจา โดยแหล่งข่าวจากวงการสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียม บอกว่า การเจรจาที่ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น เพราะไม่มีความชัดเจนว่าจำนวนแท่นที่รัฐนำไปใช้ประโยชน์ต่อ ทางผู้รับสัมปทานจะต้องวางหลักประกันและค่ารื้อถอนหรือไม่ หากต้องจ่ายค่ารื้อถอนทางผู้รับสัมปทานไม่ยอมรับในจุดนี้ เพราะกฎกระทรวงเขียนชัดเจนว่ามีสิ่งติดตั้งใดที่รัฐจะรับมอบ และให้ผู้รับสัมปทาน ส่งมอบสิ่งติดตั้งดังกล่าวให้แก่รัฐโดยไม่คิดมูลค่า หากรัฐยืนยันที่จะให้ผู้รับสัมปทานมารับภาระค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียม ที่รัฐนำไปใช้ประโยชน์ ผู้รับสัมปทานก็คงจะต้องนำข้อพิพาทดังกล่าวไปให้คนกลางหรืออนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด
“หากการเจรจาไม่ได้ข้อยุติก่อนที่จะครบ 6 เดือนหรือก่อนเดือนเมษายน 2563 นี้ เข้าใจว่าทางผู้รับสัมปทานจะยื่นเรื่องเข้าสู่อนุญาโตตุลาการอีกครั้ง ซึ่งอาจจะกระทบต่อการเข้าพื้นที่ของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ.ที่ชนะการประมูลในแหล่งเอราวัณ และอาจจะทำให้การผลิตปิโตรเลียมตั้งแต่ปี 2565 สะดุดลงได้”