มาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง
เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้น หลายฝ่ายมักเลือกใช้การเจรจาและไกล่เกลี่ย เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คู่พิพาทสามารถพูดคุยถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย จึงเป็นกระบวนการที่ยุติข้อพิพาทบางกรณีได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังฟ้อง โดย THAC จะพาทุกมาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคืออะไร?
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หมายถึง กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อมูลหรือการตรวจสอบหลักฐานหาหนทางยุติความขัดแย้ง โดยมักใช้ในขั้นตอนทางกฎหมายก่อนการพิจารณาคดีความ ซึ่งคำว่า “ไกล่เกลี่ย” หมายความว่าการมีบุคคลที่สามารถเข้ามาเป็นคนกลางที่คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการหาทางออกรวมกัน โดยผู้ไกล่เกลี่ยจะไม่มีส่วนเข้าไปตัดสินหรือเข้าข้างคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
โดยเราสามารถแบ่งการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องและหลังฟ้อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทางกฎหมาย เพื่อให้คู่พิพาทสามารถแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้งได้ก่อนและหลังที่จะนำเรื่องสู่ศาลเพื่อพิจารณาเป็นทางการ มีความแตกต่างกันดังนี้
- การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง คือ การแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ยขึ้นเพื่อให้คู่พิพาทได้แสดงถึงความต้องการของแต่ละฝ่ายเพื่อยุติข้อพิพาทก่อนนำเข้าสู่กระบวนการศาล โดยสามารถที่จะจัดการไกล่เกลี่ยได้เอง การไกล่เกลี่ยผ่านสถาบันอนุญาโตตุลาการ หรือไปยังศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนในพื้นที่ก็ได้ แต่จะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 20 ตรี เพื่อที่จะรวมไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม โดยสันติวิธี และเมื่อไกล่เกลี่ยสำเร็จจะมีการทำสัญญาประนีประนอมเพื่อบันทึกข้อตกลงในท้ายที่สุด
- การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหลังฟ้อง คือ หลังจากเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล ผู้พิพากษาอาจเห็นศักยภาพในการยุติข้อพิพาทด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหรือคู่ความสามารถให้ศาลช่วยไกล่เกลี่ย ก็จะมีการแต่งตั้งผู้ประนีประนอม เพื่อมาอำนวยความสะดวกให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะมีการนำมาสู่การถอนฟ้อง ถอนคำร้องทุกข์ และทำสัญญาประนีประนอมตามตกลง ศาลก็จะมีการพิพากษาตามยอม
เห็นได้ว่าการไกล่เกลี่ยเป็นวิธีการยุติข้อพิพาทที่ได้รับการยอมรับจากหลากหลายฝ่ายและยังสามารถลดภาระและแบ่งเบาคดีในชั้นศาลได้ ทำให้หลายพื้นที่มีการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนในพื้นที่ขึ้น โดยจะมีผู้นำชุมชนหรือข้าราชการที่น่าเชื่อถือมาทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งก็ช่วยให้ภาคประชาชนได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้ชุมชนที่อยู่อาศัยมีความสงบสุข ปลอดภัย น่าอยู่ และทำให้เกิดความสามัคคีเพิ่มขึ้น ลดความบาดหมางเมื่อนำคดีเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาได้ กล่าวได้ว่าการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องมีประโยชน์อย่างมาก
ประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง
- ประหยัดเวลาและเงินในบางกรณี
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสามารถช่วยให้คู่พิพาทประหยัดเวลาและเงินได้ในหลายกรณี เพราะไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องศาลและสืบคดีที่มีระยะเวลายาวนานหลายปี ทำให้คู่พิพาทบางฝ่ายจะต้องเดินทางมาตามนัดที่อาจจะต้องเดินทางไปตามหมายเรียก รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดียังมีค่าใช้จ่ายทั้งในการดำเนินคดีตามกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งค่าทนายความหรือค่าเดินทาง ซึ่งสำหรับการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องนั้น คู่พิพาทสามารถเดินทางไปยังศูนย์ไกล่เกลี่ยของชุมชนได้หรือการนัดสถานที่ที่สะดวกได้ อีกทั้งยังสามารถกำหนดขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างอิสระอีกด้วย
- การรักษาความลับ
เนื่องจากคู่พิพาทและผู้ไกล่เกลี่ยจะต้องมีข้อตกลงในการรักษาความลับและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งแตกต่างจากการนำคดีเข้าสู่ชั้นศาลที่จะมีการนัดสืบคดีและจะต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ สู่สาธารณชนอีกด้วย นอกจากนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงความต้องการได้ ข้อตกลงหรือการเจรจาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างไกล่เกลี่ยจะไม่ถูกนำไปพิจารณาในชั้นศาลอีกต่อไป
- การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไม่ใช่การตัดสินว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกหรือผิด แต่เป็นการที่แต่ละฝ่ายต่างยอมผ่อนปรนเพื่อหาทางออกร่วมกัน อีกทั้งยังมีผู้ไกล่เกลี่ยขึ้นมาอำนวยความสะดวก ลดการกระทบกระทั่งระหว่างคู่พิพาทได้ จึงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เมื่อจบกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแล้ว
- อำนาจในการตัดสินใจ
ถือได้ว่าการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจะมอบอำนาจให้คู่พิพาทได้ตัดสินใจ เพราะผู้ไกล่เกลี่ยเป็นเหมือนผู้ประสานความเข้าใจร่วมกันระหว่างทั้งคู่ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ทำให้การเจรจาเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยผู้ไกล่เกลี่ยต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่เอียงเอนไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะไม่ตัดสินว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด อีกทั้ง หากเกิดความไม่พึงพอใจคู่พิพาทสามารถตัดสินใจที่จะยุติการไกล่เกลี่ยได้
- สามารถยุติข้อพิพาทและลดคดีในชั้นศาล
การไกล่เกลี่ยเป็นหนึ่งในวิธีการที่ยุติข้อพิพาทและลดคดีในชั้นศาลได้ ทำให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว จึงช่วยทำให้สังคมและชุมชนสงบและปลอดภัยอย่างมาก
สรุปได้ว่า การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องถือเป็นประโยชน์ต่อคู่กรณีและสังคมอย่างมาก ซึ่งนอกจากการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนแล้ว ทางสถาบันอนุญาโตตุลาการ THAC ยังมีบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซึ่งเป็นกระบวนการยุติข้อพิพาทนอกศาลให้บริการอีกด้วย สามารถติดต่อข้อมูลได้ที่นี่
เกี่ยวกับเรา
สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center) หรือ THAC เป็นสถาบันฯ ที่ให้บริการด้านการอนุญาโตตุลาการ และการประนอมข้อพิพาทในระดับสากล ดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และให้บริการด้านอนุญาโตตุลาการที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานสากล ด้วยประสบการณ์และความชำนาญทางวิชาชีพ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้มาใช้บริการจะได้รับบริการที่ถูกต้องรวดเร็ว อีกทั้ง THAC ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง และมีอัตราค่าบริการที่ต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
สนใจติดต่อ THAC ได้ที่ อีเมล [email protected] หรือ โทร +66(0)2018 1615