
เกิดความขัดแย้ง แต่ไม่อยากขึ้นศาล? ชวนรู้จัก “การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท”หรือ”การประนอมข้อพิพาท” อีกแนวทางระงับข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพ

เวลาเกิดความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ จนไปถึงเรื่องราวใหญ่โตที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หลายคนคงเคยได้ยินเวลาคนอื่นพูดว่า “ไปไกล่เกลี่ยกัน” จนอาจสงสัยว่าการไกล่เกลี่ยคืออะไร ทำไมถึงต้องไกล่เกลี่ยกันด้วยนะ ในบทความนี้ของ THAC จึงขอมารวบรวมเกี่ยวกับ “การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” ว่าคืออะไรโดยสังเขป ทำไมต้องไกล่เกลี่ยกันด้วย แล้ววิธีใดบ้างที่จะทำให้การไกล่เกลี่ยมีประสิทธิภาพ มาทราบพร้อมกันได้ในบทความนี้
ปัญหาจากการขึ้นศาล
เมื่อเกิดความขัดแย้ง บางคนมักจะตรงไปที่โรงพักเพื่อแจ้งความดำเนินคดี แจ้งหน่วยงานภาครัฐต่างๆ หรือการจ้างทนายเพื่อสู้คดี โดยมีจุดหมายปลายทางคือการขึ้นศาลเพื่อให้มีการตัดสินอย่างเที่ยงตรงและมีการบังคับคดี ทว่าในความเป็นจริงแล้ว กว่าจะดำเนินการไปถึงชั้นศาลจะมีขั้นตอนของการ “ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” หรือการประนอมข้อพิพาทขึ้น สาเหตุที่จะต้องมีขั้นตอนนี้ขึ้นนั้นเป็นเพื่อการแบ่งเบาคดีความในชั้นศาล เพราะปัจจุบันนี้ศาลมีคดีความจำนวนมากที่จะต้องตัดสิน ซึ่งหากคดีไหนที่มีการขึ้นชั้นศาลแล้ว จะใช้ระยะเวลาดำเนินการที่นาน บางคดีอาจใช้เวลาหลายปีเพื่อที่จะให้ศาลสามารถตัดสินคดีได้ เนื่องจากศาลจะมีระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งจะต้องมีการขึ้นศาลหลายครั้ง หากขาดในครั้งใดก็อาจทำให้เสียเปรียบได้ รวมถึงยังมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการบันทึกประวัติลงและข้อมูลของข้อพิพาทจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าหน้าที่รัฐส่วนมากมักจะเจรจาขอให้มีการไกล่เกลี่ยระหว่างคู่พิพาท
ทำไมเวลาเกิดข้อพิพาท ถึงมักไปจบที่การไกล่เกลี่ย
ดังที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้น การไกล่เกลี่ยนั้นนับเป็นอีกวิธีการที่ช่วยให้ระงับข้อพิพาทได้ โดยความหมายของคำว่า ไกล่เกลี่ย ตามราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายว่า “พูดจาให้ตกลงกัน, พูดจาให้ปรองดองกัน” หรือ “ทำให้เรียบร้อย, ทำให้มีส่วนเสมอกัน” ในขณะที่ภาษาทางกฎหมายจะหมายถึง การมีบุคคลที่สามเข้ามาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย โดยหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ย คือ การช่วยเหลือในการเจรจากับคู่พิพาททั้งสองฝ่าย แต่จะไม่ได้มีหน้าที่ในการตัดสินชี้ขาด ซึ่งเมื่อสามารถหาข้อสรุปที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่ายได้ก็จะมีเก็บเป็นความลับ จะไม่มีการเปิดเผยเมื่อการเจรจาสิ้นสุดลง โดยรูปแบบของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจะมีทั้งการไกล่เกลี่ยแบบประนีประนอม (Mediation) เป็นการช่วยเหลือสื่อสารระหว่างคู่พิพาท สร้างความเข้าใจอันดีงามระหว่างคู่พิพาท จะช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน และการไกล่เกลี่ยแบบแก้ปัญหาข้อพิพาท (Problem-Solving) การเป็นการเจรจาโดยคำนึงถึงปัญหาในข้อพิพาทเป็นสำคัญ อาจไม่ได้มีการคำนึงถึงอารมณ์หรือความสัมพันธ์ระหว่างคู่พิพาทเท่าที่ควร โดยการไกล่เกลี่ยในลักษณะนี้จะค่อนข้างง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อาจจะต้องหาใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการที่มีการตัดสินคำชี้ขาด
วิธีการที่ช่วยให้การไกล่เกลี่ยมีประสิทธิภาพ
วิธีการที่จะช่วยให้การไกล่เกลี่ยมีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ คือ การแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ย จะต้องเป็นบุคคลที่ 3 ที่มีความเป็นกลาง มีวาทศิลป์ในการพูดอย่างดี มีองค์ความรู้ในเรื่องนั้นๆ สามารถที่จะรักษาความลับและความสัมพันธ์ของคู่พิพาทได้ รวมถึงผู้ไกล่เกลี่ยไม่ผู้ให้คำชี้ขาดแต่เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือให้กับผู้ในการเจรจาเพียงเท่านั้น ซึ่งกระบวนการและขั้นตอนในการไกล่เกลี่ยจะมีการกำหนดอย่างชัดเจน โดยคู่พิพาทมีอำนาจสมบูรณ์ในการร่างข้อตกลงร่วมกัน เพราะผู้ไกล่เกลี่ยเพียงเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการหาความต้องการที่แท้จริงของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น ซึ่งกระบวนการค่อนข้างมีความตึงเครียดน้อยกว่าอนุญาโตตุลาการหรือศาล อย่างไรก็ตามการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทอาจไม่สามารถหาข้อตกลงที่สามารถยินยอมร่วมกันได้ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของคู่กรณี ไม่มีบทกฎหมายหรืออำนาจศาลที่บังคับให้คู่พิพาททำตามข้อตกลงได้ ดังนั้นเพื่อให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการทำสัญญาประนีประนอมชัดเจนเมื่อสามารถตกลงร่วมกัน
สุดท้ายนี้ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนับเป็นหนึ่งในกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกนอกศาล ที่มีหลายคนได้ใช้ เพื่อให้การไกล่เกลี่ยหรือประนอมข้อพิพาทมีประสิทธิภาพ ทาง THAC ยังมีบริการประนอมข้อพิพาทและรวมถึงการระงับข้อพิพาทผ่านระบบออนไลน์ เรามีผู้ไกล่เกลี่ยที่มีองค์ความรู้และเชื้อชาติหลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้คู่กรณีสามารถหาข้อยุติได้อย่างดี
เกี่ยวกับเรา
สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center) หรือ THAC เป็นสถาบันฯ ที่ให้บริการด้านการอนุญาโตตุลาการ และการประนอมข้อพิพาทในระดับสากล ดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และให้บริการด้านอนุญาโตตุลาการที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานสากล ด้วยประสบการณ์และความชำนาญทางวิชาชีพ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้มาใช้บริการจะได้รับบริการที่ถูกต้องรวดเร็ว อีกทั้ง THAC ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง และมีอัตราค่าบริการที่ต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย