
Smart VISA ทางเลือกใหม่ในการระงับข้อพิพาททางเลือก นอกเหนือจากการประนีประนอม

การประนีประนอมเป็นวิธีระงับข้อพิพาททางเลือกที่หลายฝ่ายมักใช้เมื่อเกิดเหตุข้อพิพาทระหว่างประเทศและในประเทศขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีการที่ใช้คนกลางหรือผู้ไกล่เกลี่ยเข้ามาพูดคุยเจรจา ค้นหาจุดผ่อนปรนระหว่างกัน เพราะเป็นการแสวงหาความต้องการอันเป็นจุดกึ่งกลางร่วมกันทั้งสองฝ่าย ที่ไม่มีแพ้ชนะ หรือมีใครที่ต้องเสียผลประโยชน์มากไปกว่าใคร จึงลดความบาดหมางและรักษาความสัมพันธ์ รวมถึงยังเก็บความลับได้ อย่างไรก็ตามการประนีประนอมก็ยังมีข้อจำกัดอยู่อย่างบางครั้งนับเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวเท่านั้น ในบทความนี้จึงขอพาทุกคนมารู้อีกหนึ่งทางเลือกในการระงับข้อพิพาททางเลือกอย่างการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่จะให้บริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือกและการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเลือกใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในการดำเนินผ่าน Smart VISA
ข้อจำกัดในการประนีประนอม
การประนีประนอมยอมความก็มีข้อจำกัดอยู่ในหลากหลายครั้ง เพราะคนกลางที่เข้ามาเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย ทำหน้าที่สรุปใจความสำคัญ และสร้างสถานการณ์ที่ผ่อนคลาย แต่กลายเป็นว่าผู้ไกล่เกลี่ยไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นชี้นำในข้อพิพาทหรือแสดงความไม่เป็นกลางได้ รวมถึงยังไม่สามารถให้คำตัดสินชี้ขาดว่าคู่พิพาทไหนถูกหรือผิด ทำให้หลายๆ ครั้งไม่สามารถที่จะหาทางออกร่วมกันได้ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำให้การประนีประนอมไม่เป็นผล เช่น ความไม่ชำนาญในหัวข้อการพิพาทของผู้ไกล่เกลี่ยหรือไม่มีวาทศิลป์ในการพูด คู่พิพาทไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของตนเอง ไม่สามารถตกลงกันได้ ตลอดจนการไม่ทำสัญญาประนีประนอมหลังจากไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสำเร็จก็ถือว่าไม่สามารถนำมาฟ้องร้องบังคับคดีได้ รวมถึงในกรณีที่สัญญาประนีประนอมไม่สมบูรณ์ (อ่านเพิ่มเติม ที่นี่)
จะเห็นได้ว่าถึงแม้การประนีประนอมจะให้อิสระแก่คู่พิพาท แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ อีกทั้งยังไม่มีบทกฎหมายหรืออำนาจศาลใดๆ รองรับหรือบังคับให้ปฏิบัติตามได้ ทำให้หลายๆ ครั้งคู่พิพาทเลือกที่จะใช้การอนุญาโตตุลาการหรือการใส่วิธีระงับข้อพิพาทด้วยวิธีการอนุญาโตตุลาการเข้าไปในหนังสือสัญญาอีกด้วย
ทำไมในบางกรณีการอนุญาโตตุลาการถึงเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพกว่า
จากที่กล่าวไปข้างต้น การอนุญาโตตุลาการได้รับการยอมรับจากหลากหลายประเทศ เพื่อใช้ในการระงับข้อพิพาททางแพ่งและพาณิชย์และข้อพิพาทระหว่างประเทศ เนื่องจากมีการให้คำชี้ขาดที่มีความผูกพันตามกฎหมาย กล่าวคือการอนุญาโตตุลาการคือการสรรหาและแต่งบุคคลที่ 3 เข้ามาหาข้อยุติในข้อพิพาทนั้นๆ มีการสืบสวนและให้คำตัดสิน หากคู่พิพาทไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาด สามารถนำไปฟ้องศาลเพื่อให้ศาลบังคับคดีให้คู่กรณีปฏิบัติตามคำชี้ขาดได้ จึงนับได้ว่าจุดแข็งของการอนุญาโตตุลาการคือการผนวกเอาข้อดีของการประนีประนอม เช่น การรักษาความลับ มีความยืดหยุ่น รักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน และคู่พิพาทสามารถเลือกคนกลางขึ้นมาเป็นอนุญาโตตุลาการเข้ากับการมีคำชี้ขาดได้ จึงทำให้การอนุญาโตตุลาการกลายเป็นทางออกที่ได้ประสิทธิภาพในบางกรณีนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทที่เป็นเรื่องระหว่างประเทศหรือข้อพิพาทกับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย ที่มีความแตกต่างทางความเชื่อ วัฒนธรรม หรือภาษา หรือปัจจัยยอื่นๆทางด้านกฏหมายระหว่างประเทศ หรือทัศนคติ มุมมองต่อประเด็นข้อพิพาทที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่เข้าใจกัน รวมถึงการสรรหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อมาแต่งตั้งเป็นคณะอนุญาโตตุลาการต่างชาติ เนื่องด้วยข้อจำกัดเกี่ยวกับ Visa และ Work Permits เพราะในกรณีที่ต้องการเข้ามาทำธุระติดต่อในไทยเป็นเวลายาวนานหรือต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง อาจเกิดปัญหาด้านการยื่นคำขอวีซ่าสำหรับเดินทางเข้ามาในประเทศไทยขึ้นได้ ซึ่งทาง THAC ขอแนะนำอีกตัวช่วยเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยให้การประนอมข้อพิพาทสำเร็จได้ด้วยดี ก็คือ “สมาร์ทวีซ่า (Smart VISA)”
Smart VISA อีกทางเลือกในการอนุญาโตตุลาการ
Smart VISA คือวีซ่าพิเศษที่ให้ผู้มีสิทธิสามารถเข้าพำนักในประเทศไทยสูงสุดเป็นระยะเวลา 4 ปี มีการรายงานตัวเพียง 1 ครั้งต่อปี จากปกติที่ต้องรายงานตัวทุกๆ 90 วัน ทำให้สามารถเดินกลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยสิทธิพิเศษนี้บุตรและคู่สมรสสามารถได้รับสิทธิพิเศษนี้ร่วมด้วย นับเป็นวีซ่าที่ออกมาให้แก่ บุคคลที่มีทักษะสูง อย่างอนุญาโตตุลาการ ที่ปรึกษาคดีอนุญาโตตุลาการงานว่าต่างแก้ต่างในคดี และงานสนับสนุนต่างๆ รวมถึงนักลงทุนที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานหรือลงทุนใน S–Curve (อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ) หรือกิจการเป้าหมายของประเทศ ซึ่งชาวต่างชาติที่กำลังพำนักในประเทศไทยสามารถขอเปลี่ยนวีซ่าทั่วไปเป็นสมาร์ทวีซ่าได้ด้วย (รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสิทธิพิเศษของ Smart VISA ที่นี่)
โดยทางสถาบันอนุญาโตตุลาการ THAC นอกจากจะมีการบริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือกแล้ว เรายังมีความยินดีในการให้คำปรึกษาพร้อมดำเนินความสะดวกให้กับผู้มีความเชี่ยวชาญสูงทางด้านกฎหมาย ผู้ประนอมข้อพิพาท และอนุญาโตตุลาการที่สนใจยื่นขอสมาร์ทวีซ่า ผ่านการออกหนังสือรับรองคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากทาง THAC ก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐบาลจึงสามารถออกหนังสือรับรองประกอบการขอสมาร์ทวีซ่า (SMART Visa) กับ BOI หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ เนื่องจากพันธกิจของสถาบันต้องการส่งเสริมการระงับข้อพิพาททางเลือกในไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
เกี่ยวกับเรา
สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center) หรือ THAC เป็นสถาบันฯ ที่ให้บริการด้านการอนุญาโตตุลาการ และการประนอมข้อพิพาทในระดับสากล ดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และให้บริการด้านอนุญาโตตุลาการที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานสากล ด้วยประสบการณ์และความชำนาญทางวิชาชีพ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้มาใช้บริการจะได้รับบริการที่ถูกต้องรวดเร็ว อีกทั้ง THAC ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง และมีอัตราค่าบริการที่ต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
อ้างอิง